นำส่งตัว เฮียเก้า ช่วยมือหั่นศพ

เมียนมาส่งตัว”เฮียเก้า”คนนำเปรี้ยวหั่นศพข้ามประเทศเมียนมา หลังรับโทษครบในเมียนมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) รับตัวนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ “เฮียเก้า” หลังถูกดำเนินคดีในเมียนมาจาพ้นโทษ กลับมารับโทษในไทยต่อ

เวลา 13.00 น.วันที่ 8 เม.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5 พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.เชียงราย ได้รับการประสานจากทางการ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ให้ไปรับตัวนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ “เฮียเก้า” อายุ 34 ปี ชาว ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดหลายคดีในประเทศไทย หลังจากที่นายธวัชชัยได้พ้นโทษข้อหาหลบหนีเข้าเมืองในฝั่งประเทศเมียมมาเรียบร้อยแล้ว โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ร่วมกับด่าน ตม.เชียงราย ป.ป.ส.ตำรวจภูธร ตชด.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรับตัวนายธวัชชัย ณ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เมื่อได้รับตัวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้ง หมายจับจากศาลอาญาที่ 535/2563 ลงวันที่ 21 ธ.ค.2563 ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุให้ได้มีการสมคบกัน,ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และจากศาลอาญาที่ 540/2563 ลงวันที่ 1 ธ.ค.2563 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุให้ได้มีการสมคบกัน จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับนายธวัชชัยได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศเมียนมาตั้งแต่ปี 2560 มีประวัติว่าให้การช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าหั่นศพเพื่อนสาวที่ จ.ขอนแก่น โดยเป็นผู้พา เข้าพักที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อน น.ส.ปรียานุช จะถูกเกลี่ยกล่อมให้เดินทางกลับมามอบตัวและถูกดำเนินคดีในฝั่งไทย แต่นายธวัชชัยยังคงหลบหนีในประเทศเมียนมา จนกระทั่งมาถูกทางการเมียนมาจับเมื่อต้นปี 2561 ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ขับรถยนต์ชนทรัพยสินของชาวบ้าน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในการครอบครอง และมียาเสพยาเสพติด กระทั่งถูกดำเนินคดีทั้งหมดจนพ้นโทษจึงถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น