ร้องถูกทำร้ายปางตาย ทั้งที่ตั้งใจช่วยเหลือ

ร้องถูกทำร้ายปางตาย ขณะที่พบอุบัติเหตุรถตกข้างถนน อุตส่าห์เข้าไปหาเพื่อให้การช่วยเหลือกลับถูกทำร้ายร่างกายเจ็บหนัก เผยจะเอาเรื่องถึงที่สุด พบ ผู้ก่อเหตุใช้รถติดสติกเกอร์ เคเบิลกรมการทหารสื่อสาร กองบัญชาการกองทัพ ไทย กรมสื่อสารทหาร หวั่นคดีเป็นมวยล้ม

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 เวลา 02.24 น.ส.บังอร ติวัน และ บุตรชาย ด.ช.สิรพันธ์ ติวัน อายุ 11 ขวบ เปิดเผยว่า ขณะกลับจากช่วยงานแต่งหลานที่บ้านหัวน้ำแม่สะกึด ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ มาถึงบริเวณหน้าบ้านของ พล.อ.สุรพล ตาปณานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อแม่ฮ่องสอน ได้พบรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ยค 8762 เชียงใหม่ ข้างรถติดสติกเกอร์ เคเบิลกรมการทหารสื่อสาร กองบัญชาการกองทัพ ไทย กรมสื่อสารทหาร ตกข้างถนน จึงได้จอดรถเพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยได้ถามว่าเจ็บมากไหม จะให้เรียกรถกู้ชีพของ อบต.ผาบ่องไหม จากนั้นตนได้โทรศัพท์ไปหาทีมกู้ภัย อบต.ผาบ่อง แต่ไม่มีใครรับสายจากนั้นได้โทรไป 191 ขณะที่แจ้งรายละเอียดแก่ เจ้าหน้าที่ 191 นั้น ชายคนขับรถคันดังกล่าว ได้โผนเข้ามาทำร้ายตนเองทันที ด้วยการบีบคอ กระชากเสื้อ และพยายามดึงผ้าถุงที่สวมใส่ ขณะเดียวกัน บุตรชายที่อยู่ด้วยกันได้พยายามเข้ามาช่วยเหลือ จนหลุดจากสถานการณ์ดังกล่าว ตนพร้อมบุตรชาย ได้รีบขับรถไปที่ อบต.ผาบ่องและให้รถกู้ชีพ นำส่งโรงพยาบาลศรีสังวาลย์เพื่อรักษาอาการ โดยมีอาการเขียวช้ำที่ลำคอ ใบหน้าบวมปูด และลิ้นถูกฟันกระแทกจนเป็นแผลลึก ส่วนลูกชายขณะที่พยายามเข้าช่วยเหลือแม่ได้ถูกผลักล้มจนหัวเข่ามีแผลถลอก

โดยในวันนี้ตนได้เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.น้ำเพียงดิน ซึ่งทางตำรวจได้นัดในวันพรุ่งนี้ให้ไปเซ็นต์เอกสาร ในเวลา 13.00 น.ซึ่งตนพบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่แล้วเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะใช้อิทธิพลทางทหารของ กองบัญชาการทหารสูงสุด ทำให้คดีพลิก จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อให้นำเสนอข่าว ไปถึงผู้บัญชาการกองทัพไทยให้ลงมาสอดส่องดูแลกำลังพลและทำให้ข้าพเจ้าได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วยขณะเดียวกันตนได้นำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนต่อ ศูนย์ประชาบดี จังหวัดแม่ฮ่องสอน อีกทางหนึ่งแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น