รวบหนุ่มใหญ่ 8 หมายจับ ตระเวนขโมยหนังสือนวนิยายห้างดังในเชียงใหม่ อ้างแค้นใจร้านหนังสือใส่ร้ายตัวเองว่าขโมยหนังสือก่อน เลยแก้แค้นด้วยการก่อเหตุ
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันนี้ (10 พ.ค.65) โดยทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัว นายขันติ แจ่มเพ็ง อายุ 58 ปี ชาว อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับถึง 8 หมาย ในพื้นที่ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา , ศาลแขวงพระนครเหนือ , ศาลอาญามีนบุรี , ศาลแขวงนนทบุรี , ศาลจังหวัดปราจีนบุรี , ศาลจังหวัดหัวหิน , ศาลแขวงพัทยา และ ศาลแขวงดุสิต ในความผิดฐานลักทรัพย์ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางเป็นหนังสือนงนิยายชื่อดังมูลค่าสูง จำนวนกว่า 109 เล่ม ขณะที่ทางเจ้าตัวกำลังเตรียมนำหนังสือทั้งหมดที่ขโมยมาไปส่งขาย บริเวณห้องพัก ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ก่อนการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ได้รับการประสานมาว่า นายขันติ มีพฤติกรรมเป็นคนร้าย ขับรถยนต์กระบะตระเวนขโมยหนังสือตามร้านหนังสือชั้นนำต่างๆ ภายในห้างหลายจังหวัด และล่าสุดได้มาที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจากการตรวจสอบพบว่าก่อเหตุภายในร้าน B2S มาแล้วถึง 4 สาขา โดยหนังสือที่ก่อเหตุขโมยเป็นเป็นหนังสือนวนิยาย ที่มีมูลค่า 300-1,200 บาท และทางร้านได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อขอให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งต่อมา จากการตรวจสอบหล้องวงจรปิด ก็พบเบาะแสว่า คนร้ายคือ นายขันติ ที่มีหมายจับจากพื้นที่อื่นอีกถึง 8 หมายจับ หลัจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเส้นทางหลบหนี จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหา และของกลางหนังสือที่ก่อเหตุขโมยมา ที่ทาง นายขันติ ได้ทำการแพ็คลงกล่องเพื่อเตรียมที่จะนำส่งไปจำหน่ายในพื้นที่ กทม.
นอกจากนี้จากการสอบสวน นายขันติ ผู้ต้องหาได้อ้างว่า สาเหตุที่มาลงมือก่อเหตุตระเวนขโมยหนังสือนั้นเป็นเพราะว่าเมื่อ 10 ปีก่อน ตนเคยถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนร้ายขโมยหนังสื่อ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำทำ และต่อมาจึงเกิดความแค้นฝั่งใจ จากนั้นจึงตะเวนขโมยเฉพาะหนังสื่อ โดยจะก่อเหตุเพียงร้านนี้เท่านั้น ส่วนวิธีก่อเหตุก็จะทำทีเข้าไปเลือกดูหนังสือ พอสบโอกาสก็จะแอบเอาหนังสื่อยัดใส่พุงตัวเองแล้วเดินออกมาครั้งละ 3-4 เล่ม และตระเวนไปตามสาขาอื่นๆ พอได้หนังสือมาแล้วก็นำของที่ได้ไปขายที่ร้านขายหนังสื่อมือสอง ได้เงินมาเป็นทุน ก็ย้ายไปพื้นที่อื่น แล้วก่อเหตุในลักษณะเดียวกันจนกระทั่งถูกจับกุม
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น เนื่องจากผู้ต้องหามีหมายจับถึง 8 หมาย แม้ว่าผู้ต้องหาจะยอมรับว่าทำไปเพราะความแค้นส่วนตัว แต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่มีเชื่อว่าการก่อเหตุทุกคนั้งทุกทำตามใบสั่งมากกว่า ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด และจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ต้องหาต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น