ข่าวปลอม! โทรทางไลน์ ทำให้เกิดเนื้องอกฯ

ข่าวปลอม!อันตรายจากการโทรทางไลน์ ทำให้เกิดเนื้องอกในสมอง

วันที่ 14 พ.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องอันตรายจากการโทรทางไลน์ ทำให้เกิดเนื้องอกในสมอง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการแชร์ข้อความว่า อันตรายจากการโทรผ่านทางไลน์ มาจากเวลา WiFi และ Data ทำงานรับส่งข้อมูล ค่า RF จะขึ้นไปสูงมากเป็นระดับ ร้อยๆ mW/m2 ทำให้เป็นเนื้องอกในสมองในเวลาไม่นานนัก ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากคลื่นโทรศัพท์ มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมของโลกทุกที่อยู่แล้ว แม้ในบริเวณใกล้เสารับส่งสัญญาณก็ไม่แตกต่างจากบริเวณที่อยู่ห่างออกไป หรือแม้แต่ผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่พกติดตัวไปในทุกที่ทุกเวลา ซึ่งยังไม่มีการศึกษายืนยันถึงผลของสัญญาณดังกล่าว ว่าทำให้เกิดเนื้องอกในสมองโดยการใช้โทรศัพท์ให้เหมาะสม ไม่มากหรือนานจนเกินไปก็จะช่วยลดอาการร้อนจากการสัมผัสโดยตรงได้ หรืออาจจะเลือกใช้ small talk หรือหูฟังก็สามารถช่วยได้ หรือบางท่านที่ถือโทรศัพท์ในท่าเดิมนานๆ ก็สามารถทำให้เกิดอาการชาเนื่องจากการขยับส่วนของร่างกายลดลง หรือจากท่าทางในการถือโทรศัพท์ที่อยู่ในท่าเดิมนานจนเกินไปได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือโทร. 02 3069899

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีการศึกษายืนยันถึงผลของสัญญาณดังกล่าว ว่าทำให้เกิดเนื้องอกในสมองได้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น