(มีคลิป) นาน้อยฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากท่วม

นาน้อยฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ท่วมบ้านเรือนเสียหาย

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.00 น. สนง.ปภ.น่าน สาขานาน้อย ได้รับแจ้งว่าได้เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนเสียหาย โดยศูนย์เฝ้าระวังน้ำเตือนอพยพ หลังมีฝนตกลงมาติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่บ้านใหม่หัวดง หมู่ 10 และบ้านสันทะ หมู่ 6 ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน โดยกระแสน้ำได้ไหลทะลักมากับดินโคลนอย่างรวดเร็ว และเข้าท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร โดยบ้านที่อยู่ติดริมน้ำ พื้นที่ต่ำ ระดับน้ำเข้าท่วมกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งช่วยกันขนย้ายข้าวของหนีน้ำ

โดยเบื้องต้น นายเมฆินทร์ อินนะไชย รักษาการณ์หัวหน้า สนง.ปภ.น่าน สาขานาน้อย รายงานมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายน้ำท่วมขังสูง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 11 ครัวเรือน น้ำท่วมขัง จำนวน 9 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนจากดินสไลด์ จำนวน 2 ครัวเรือน ,ข้าวของ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การเกษตร รถจักรยานยนต์ ที่เก็บไว้ภายในบ้านได้รับความเสียหาย จำนวน 9 หลังคา และถูกดินโคลนที่มากับน้ำไหลสไลด์เข้าบ้านอีก 2 หลังคา นอกจากนี้ น้ำยังเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ่อปลา สัตว์เลี้ยง เป็ด ไก่ ซึ่งหลังน้ำลดทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอำเภอ ท้องถิ่น จะเร่งเข้าสำรวจความเสียหาย ทั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างประสานงานกับส่วนเกี่ยวข้อง และเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ขณะที่ ห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม สำนักวิจัยพัฒนาและอุทกวิทยา (สวพ.) กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แจ้งข้อมูลการเตือนภัย วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 เตือนภัยอพยพ (สีแดง) ด้วยปริมาณน้ำฝน บ้านห้วยเย็น ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 163.0 มิลลิเมตร ปริมาณฝนสะสม 15 นาที 10.0 มิลลิเมตร

ด้าน พล.ต. คณิศร อาสมะ ผบ.มทบ.38 ได้จัดกำลังพลพร้อมด้วยชุดบรรเทาสาธารณภัย ร้อย.มทบ.38 ,ชุดช่าง และอุปกรณ์ ในการกู้ภัยเบื้องต้น นำโดย พ.อ.กฤตินันท์ นิโลบล หก.กกร.มทบ.38 หน.ฝกร.ศบภ. มทบ.38 , พ.ท.สรารักษ์ ชูสกุล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ ได้เตรียมชุดแพทย์พร้อมเครื่องมือแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือบ้านผู้ประสบภัย เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ โดยจัดกำลังพลส่วนหน้าลงสำรวจความเสียหาย ร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อวางแผนการใช้ยุทโธปกรณ์ที่มี เพื่อให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูต่อไป