นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. ถึงการพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ ว่า ที่ประชุมมีมติให้คงราคาดีเซล ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตรเช่นเดิม กระทรวงการคลังต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้เป็น 5 บาทต่อลิตร ไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่ 21 พฤษภาคม – 20 กรกฎาคม 2565 แต่เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง โดยราคาน้ำมันดีเชล (Gas Oi) อยู่ที่ 141.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานให้กับประชาชน การขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้เป็น 5 บาทต่อลิตร ไปอีก 2 เดือน โดยอัตราภาษีใหม่ที่ลดลงหน้าสถานีบริการน้ำมันจะจัดเก็บอยู่ที่ 1.34 บาทต่อลิตร จากเดิม 5.99 บาทต่อสิตร จะนำไปเสริมสภาพคล่องและช่วยแบ่งเบาภารการอุดหนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้จากปัจุบบันที่ 9.41 บาทต่อลิตร อยู่ที่ 7.25 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน ติดลบ 72,062 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันมีประชาชนใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 67 ล้านลิตรต่อวัน และดีเซลเกรดพรีเมี่ยมลดลงจาก 1.4 ล้านลิตรต่อวันอยู่ที่ 400,000 ลิตรต่อวัน
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า การพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ของ กบน. จะทยอยปรับราคาขึ้นลงเป็นรายสัปดาห์ หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามความการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน แต่หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ภาครัฐยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร แต่โอกาสที่ราคาน้ำดีเซลต่ำกว่า 32 บาทต่อลิตรหลังจากนี้เป็นไปได้ยาก เนื่องจากทั่วโลกมีความต้องการใช่น้ำมันเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ที่ 110-115 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล ส่วนราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 141-150 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล
ร่วมแสดงความคิดเห็น