ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ หารือรับมืออุทกภัยในเขตเมือง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ หารือแนวทางรับมืออุทกภัยในเขตเมือง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หารือแนวทางรับมืออุทกภัยในเขตเมืองป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ สั่งการทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากเกิดเหตุอุทกภัย

วันนี้ (23 พ.ค. 65) ที่ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางรับมือและแก้ไขปัญหาการเกิดอุทกภัยในเขตเมือง ระยะเร่งด่วน โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง จังหวัดเชียงใหม่หลายจุด โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ จะต้องมีความพร้อมรับมือในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือ แผนเผชิญเหตุ ตลอดจนแนวทางการแจ้งเตือนประชาชนที่รวดเร็ว ให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะในจุดวิกฤติสำคัญต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ บริเวณหน้าท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่จนถึงมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ซึ่งมักเกิดน้ำท่วมผิวจราจรจากปริมาณน้ำจำนวนมากไหลมาจากชุมชนสวนดอก กองบิน 41 และต้นพยอม และไม่สามารถระบายผ่านท่อลอดใต้เส้นทางจราจรได้ทัน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังในบริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำ และขุดลอกคลองระบายน้ำที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเตรียมพร้อมนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งในขณะเกิดเหตุ เพื่อช่วยระบายน้ำได้รวดเร็วอีกทางด้วย

ส่วนในบริเวณถนนโชตนาก่อนถึงสนามกอล์ฟลานนา ที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำนั้น เนื่องจากท่อระบายน้ำเป็นท่อแบบเดิมซึ่งมีขนาดเล็กและยังไม่ได้ดำเนินการทะลวงท่อลอดระบายน้ำ ซึ่งอาจจะมีดินโคลนและเศษวัชพืชต่างๆ ค้างอยู่ในท่อ ขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการทะลวงท่อระบายให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ได้มีการวางแผนเตรียมขยายขนาดท่อลอดระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการระบายน้ำให้ได้มากขึ้น ด้านชุมมชนช่างเคี่ยนและห้วยแก้ว ที่ได้รับผลกระทบนั้น เกิดจากเครื่องสูบน้ำสามารถใช้งานได้เพียง 1 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำออกนอกพื้นที่ได้ทันและไม่สามารถระบายน้ำลงสู่คลองชลประทานได้ เนื่องจากคลองชลประทานมีระดับน้ำที่สูงอยู่แล้ว จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าดำเนินการซ่อมเครื่องสูบน้ำให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มกรณีเกิดเหตุวิกฤติ

นอกจากนี้บริเวณสี่แยกต้นพยอม ซึ่งเป็นจุดรับน้ำที่ไหลมาจากพื้นที่ตำบลสุเทพ จะต้องมีการปิดกั้นน้ำให้ระบายลงคลองชลประทานเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ตัวเมืองชั้นในได้ โดยจะได้มีการปรับปรุงแบริเออร์ด้านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้สามารถระบายน้ำลงสู่คลองชลประทานได้ดีขึ้น ด้านแยกข่วงสิงห์และกาดประตูก้อม (ศรีปิงเมือง) นั้นจะให้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงคลองแม่ข่าและไหลออกสู่ตอนท้ายของลำน้ำปิงให้เร็วที่สุด ทั้งนี้พื้นที่รับน้ำในเขตตำบลป่าแดด และตำบลแม่เหียะ นั้นจะต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอุทกภัยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะต่อไปนั้นจะได้มีการวางระบบท่อระบายน้ำ เพื่อรองรับและระบายน้ำจากตัวเมืองเชียงใหม่อย่างมีประสิทธิภาพอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการกำหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบในแต่ละจุดปัญหาวิกฤตของอำเภอเมือง โดยมอบหมายภารกิจให้วางแผนการแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และขอให้ติดตามสถานการณ์ สภาพดินฟ้าอากาศอย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนภัยประชาชนทันทีหากพบเหตุผิดปกติ เพื่อลดและบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก


ร่วมแสดงความคิดเห็น