ป่าไม้จับมือพร้อมกำนัน-จับคนเผาป่าคาจุดตรวจ…

จับมือเผา
รวมหนุ่มรักษาความปลอดภัยจุดไฟเผาในพื้นที่ขณะกำลังจุดไฟเผาคาหนังคาเขาเผยทำเพราะคึกคะนอง บ้านปงเป็นพื้นที่ดอยสูงและเกิดเพลิงไหม้ยังจุดต่างๆทุกวันทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทางปกครองส่วนท้องถิ่นต้องนำกำลังกันมาเฝ้าเวรยามและดับไฟป่าดังกล่าวทุกวัน ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงมีการลอบจุดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดไฟป่าลุกลามตามยอดเขามองเห็นชัดเจนในเวลากลางคืน ล่าสุด ผวจ.เตรียมเรียกประชุมหาแนวทางในการป้องกันไม่ได้ค่ามลพิษสูงเกินค่ามาตรฐาน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 12 มี.ค.59 ที่บ้านปงใต้ หมู่ 1 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำโดย นายไพโรจน์ อ่างทอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญการ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่เชียงใหม่ 21(สันป่าตอง) ฝ่ายปกครองนำโดย นายประเสริฐ อินต๋า กำนันตำบลบ้านปง นายดวงคำ อินเสาร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ร่วมกันจับกุม นายธีระศักดิ์ กิติสม อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 1 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางไฟแช็ค 1 อัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน 1 คัน ขณะกำลังจุดไฟเผาป่า และจุดไฟจนเกิดเพลิงไหม้มาแล้วหลายจุด
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมรับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ในหมู่บ้านปงใต้ หมู่ 1 ต.บ้านปง ปากทางเข้าป่าแม่ท่าช้างแม่ขนิล โดยมีชายหนึ่งคนลักลอบเผา ทางเจ้าหน้าที่จึคงได้ติดตามดับไฟเป็นจุดๆข้างทาง และพบนายธีระศักดิ์ กำลังจอดรถจักรยานยนต์จุดไฟแช็คบริเวณหญ้าข้างทาง เมื่อเห็นดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงจับกุมชายคนดังกล่าวและทำการดับไฟที่กำลังลุกไหม้ สอบสวนนายธีระศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าทำจริงเพราะเห็นหญ้าแห้งข้างทางเลยนึกสนุกบวกคึกคะนองจึงจุดไฟเผา หลังสอบสวนแล้วจึงนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับตำบลบ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ดอยสูงและเกิดเพลิงไหม้ยังจุดต่างๆทุกวันทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทางปกครองส่วนท้องถิ่นต้องนำกำลังกันมาเฝ้าเวรยามและดับไฟป่าดังกล่าวทุกวันโดยบางพื้นที่กินเวลาเกือบทั้งคืนจนถึงเช้า และเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 มี.ค. 59 น.ส. ภัทราพร ลายจุด นายอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ เป็นประธานประชุมเข้มผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องของการป้องกันไฟป่าชาวบ้านแอบเผาป่า ซึ่งมีหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่ออน คณะกรรมการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าอำเภอแม่ออน เพื่อแก้ไขและวางมาตราการในการแก้ไขปัญหาไฟป่าร่วมกันกับหน่วยงานในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประมาณ 40 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ เวลา 22.00 น.นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้หน่วยควบคุมและป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า ระดับจังหวัดและอำเภอ ทบทวนผลการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา และให้เตรียมแผนการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากพบว่า ในแต่ละพื้นที่ยังคงมีการลอบเผาป่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มีค่าเกินมาตรฐานไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีการสอบถามความคิดเห็นเบื้องต้นไปยังหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ในเรื่องการแก้ปัญหาการลอบจุดไฟเผาป่า ด้วยการอาจจะให้มีการชิงเผาและสลับพื้นที่เผาทำลายเชื้อเพลิงในป่าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ได้เคยมีการสั่งให้มีการชิงเผาในช่วงตลอดเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ อันมีสาเหตุมาจากเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ในป่า ยังมีความชื้นจากน้ำค้างสะสม เผาไม่ติดไฟ ส่งผลให้ในห้วงกำหนดการห้ามเผาเด็ดขาดตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากเชื้อเพลิงในป่าแห้งสนิทและมีการลอบเผาป่าอย่างไม่หยุดยั้งในทุกพื้นที่ของจังหวัด
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดของวันที่ 12 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ดาวเทียมได้ตรวจพบจุดความร้อนจำนวน 18 จุด และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึง 12 มี.ค. จุดความร้อนสะสมของแม่ฮ่องสอน รวมจำนวน 209 จุด และล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 12 มี.ค.2559 หน่วยเคลื่อนที่เร็วดับไฟป่าของอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าบริเวณพื้นที่ บ้านสบสอยหมู่ 7 และบ้านในสอย หมู่ 4 ต.ปางหมู อ.เมือง ว่า มีไฟป่าเกิดขึ้นบริเวณเทือกเขาของทั้งสองหมู่บ้าน มองเห็นเห็นแนวยาวหลาย กม. และแจ้งขอยกเลิกภารกิจ เนื่องจากพื้นที่ ที่เกิดไฟป่า เป็นหน้าผาบนเทือกเขาที่สูงชันและอันตรายต่อการปีนป่ายขึ้นไปดับไฟ ขณะที่บริเวณด้านหลังค่ายม่อนตะแลง ของหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 เจ้าหน้าที่ทหารต้องทำงานอย่างหนักในการดับไฟป่า บริเวณด้านหลังค่าย ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ถึง 20.00 น.จึงแล้วเสร็จ
ปัญหาในการเข้าไปแก้ไขดับไฟป่า ส่วนใหญ่ที่พบคือ พื้นที่ ที่เกิดไฟป่า เป็นเทือกเขาสูงชันและเป็นหน้าผา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางขึ้นไปดับไฟป่าในเวลากลางคืนได้ และถึงแม้จะเป็นเวลากลางวันก็เช่นกัน ส่งผลให้มีจุดไฟป่า กว่าร้อยละ 80 ไม่สามารถเดินทางเข้าไปดับไฟป่าได้ ในส่วนของพื้นที่เป็นเทือกเขาขนาดเล็ก สามารถเข้าไปดับไฟป่าได้ แต่ถ้าเทียบแล้วถือว่าดับได้น้อยมาก ส่งผลให้ควันไฟป่าสะสมมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ

ร่วมแสดงความคิดเห็น