ชาวบ้านพลิกวิกฤตแล้ง ปรับพื้นที่แม่น้ำปิงเป็นสนามจยย.วิบาก จัดแข่งหารายได้เข้าชุมชน

ชาวจอมทองร่วมมือกันปรับพื้นที่สายแม่น้ำปิงที่แห้งขอด เป็นสนามแข่งรถจยย.วิบาก ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าชม พร้อมเชิญนักบิดเข้าร่วมแข่งขันใน “20 มี.ค.นี้”นำรายได้เพื่อการกุศล

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีวัยรุ่นและนักแข่งทั้งสมัครเล่น และมืออาชีพ ต่างนำรถจักรยานยนต์วิบาก มาลงสนามซ้อมกันที่บริเวณพื้นดินแม่น้ำปิง อ.จอมทอง เชียงใหม่ และ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เขตติดต่อกัน ที่บริเวณน้ำปิงนั้นน้ำแห้งขอดจนเห็นพื้นดิน และดินถูกแสงแดดจนดินแข็ง ทางชาวบ้านร่วมกับชมรมเอ็นดูโร่จอมทองเชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งหมากหนุ่ม อ.จอมทอง เชียงใหม่ ได้ปรับแต่งพื้นที่บริเวณพื้นดินในแม่น้ำปิง ที่แห้งให้เป็นสนามแข่งรถจักรยานยนต์วิบาก โดยที่น้ำปิงแห้งมาจากภัยแห้ง ชาวบ้านจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จัดปรับแต่งบริเวณพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นสนามแข่งรถจักรยานยนต์วิบากและไว้ซ้อมให้วัยรุ่นและนักแข่งมาใช้สนาม โดยชาวบ้านและชมรมฯ กำหนดจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบากกันขึ้น ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ โดยใช้ชื่อว่า “จอมทองเอ็นดูโร่การกุศล@ไซเคิลครอสครั้งที่ 1”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักแข่งรถจักรยานยนต์วิบากทั้งวัยรุ่นในหมู่บ้าน และนักแข่งสมัครเล่นและอาชีพ ต่างแต่งกายด้วยชุดคู่ใจ เพื่อเซฟความปลอดภัยก่อนสวมหมวกกันน็อคขี่รถจักรยานยนต์เอนดูโร่ทะยานจากบนฝั่งลงสู่สนามแข่งขันชั่วคราวที่มีความยาว 850 เมตร ทั้งทางตรงและสลับการขึ้นเนิน ที่สภาพสนามก่อนหน้านี้เป็นแม่น้ำปิงที่กว้าง 500 เมตรเต็มไปด้วยก้อนหินดินทราย ก่อนจะถูกปรับพื้นที่ให้เป็นสนามแข่งรถจักรยานยนต์เอนดูโร่ และรถวิบากบริเวณน้ำปิง บ้านทุ่งหมากหนุ่ม ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทุกวันในช่วงเช้ากับช่วงเย็นจะมีนักแข่งทุกรุ่นทุกวัยมาฝึกซ้อม ท่ามกลางบรรยากาศชาวบ้านที่มาค่อยเฝ้าชม และให้กำลังบนฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งถือว่าเป็นการลดความเครียดเรื่องภัยแล้ง และขาดแคลนน้ำพะวงกับน้ำน้อย ไปได้ในระดับหนึ่ง

นายนิรุตน์ อะตะมะ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งหมากหน่ม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัญหาภัยแล้งขยายวงกว้างไปทุกภาคของประเทศไทยน้ำแม่น้ำต่างๆ เริ่มแห้งขอด โดยเฉพาะแม่น้ำปิงบริเวณรอยต่ออำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูนและอำเภอจอมทอง ที่ปีนี้เป็นปีแรกที่น้ำในแม่ปิงแห้ง แต่ชาวบ้านพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ใช้แม่น้ำปิงมาเป็นสนามซ้อมขี่รถจักรยายนต์วิบาก และเตรียมจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความสุขให้ชาวบ้าน และหารายได้เข้าชุมชนในช่วงฤดูแล้งด้วย

นายปกรณ์ ใจมูล ประธานชมรมเอ็นดูโร่จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริเวณแม่น้ำปิงจุดนี้ทุกปีที่ผ่านมา จะมีน้ำไหลผ่านชาวบ้านที่นี้ก็จะมีการจับปลา และทำแพท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวเล่นน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่ปีนี้แล้งหนักทำให้บริเวณแม่น้ำปิงแห้งขอด ไม่มีน้ำมีแต่สันดอนทรายให้ชาวบ้านขาดรายได้ไม่สามารถหาปลา และทำแพได้เช่นทุกปี

ดังนั้น ทางชมรมเอ็นดูโร่จอมทอง ซึ่งชื่นชอบการขี่รถจักรยานยนต์วิบาก จึงมีแนวคิดที่จะหากิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์ และให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จึงมีแนวคิดนี้ขึ้นมาโดยเข้าไปพูดคุยกับทางผู้ใหญ่บ้านขอทำประชาคม และขอนุญาตกรมเจ้าท่าในการใช้พื้นที่ กระทั่งประสบความสำเร็จทางชมรมเอ็นดูโร่จอมทองจึง ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลสบเตียะ จัดแข่งรถจักรยานยนต์วิบาก ในวันที่ 20 มี.ค. เพื่อนำรายได้สมทบทุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน และรณรงค์ไม่ให้เยาวชนไปแข่งรถบนท้องถนน รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด “สำหรับการแข่งขันมีทั้งหมด 30 รุ่น ถ้าหากนักแข่งท่านใดสนใจตอนนี้ ก็ยังสามารถสมัครได้ทัน หรือนักท่องเที่ยวหรือประชาชนท่านใด ต้องการไปชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบากในแม่น้ำปิงก็สามารถไปเที่ยวชมกันได้ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ โดยจะเริ่มการแข่งขันตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.” นายปกรณ์ กล่าว

นายนิวัตร สุขประวัติ นักแข่งจักรยายนต์ ที่มาซ้อมที่สนามแห่งนี้ เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นการแข่งขันที่นี้ถือเป็นความท้าทาย เพราะไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนต้องมาลองดู ตนก็ให้ความสนใจและเพื่อร่วมทำบุญร่วมกับชาวบ้านเพื่อชุมชนของเขาด้วย ไม่ได้หวังรางวัลอะไร แต่ก็ต้องการเพื่อได้มาฝึกซ้อมและร่วมแข่งขันการกุศล ถือว่าเป็นสนามที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ มาปรับแต่งนิดหน่อยก็ถือว่าได้สนามที่ได้มาตราฐานแห่งหนึ่งเลยทีเดียว และสนามแห่งนี้จะเป็นสนามยั่งยืนหรือไม่ก็ต้องดูสภาพดินฟ้าอากาศด้วย แต่ถือว่าเป็นสนามแห่งแรกและเป็นความคิดที่ริเริ่มดีมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาภัยแห้งและไฟป่านั้น ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแต่ละแห่งในเชียงใหม่ ก็ยังคงดำเนินการดับไฟป่าต่อเนื่องและเฝ้าสังเกตุการณ์แต่ละจุดและยังคงใช้ ฮ.ขึ้นปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณจุดที่เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปยากลำบากและเข้าไปไม่ถึง ล่าสุดทางศุนย์ปฏิบัติการบินที่ 2 เชียงใหม่ ก็ทำการสนับสนุน ฮ.ทิ้งน้ำดับไฟป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ อ.สันกำแพง เชียงใหม่ โดยบริเวณที่เกิดไฟลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาดอยป่า และไฟได้ลุกลามขึ้นสู่ยอดเขา ซึ่งภารกิจในครั้งนี้ใช้ ฮ.บินดับไฟป่าจำนวน 35 เที่ยว และสามารถปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานภาคพื้นยับยั้งไฟป่าและควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ไว้ได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น