พาณิชย์ลงตรวจตลาดสดทั่วประเทศพบราคาสินค้าทรงตัว

พาณิชย์ลงตรวจตลาดสดทั่วประเทศพบราคาสินค้าทรงตัว ยืนยันปัญหาภัยแล้ง ยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ในขณะที่พาณิชย์จังหวัดขานรับนโยบายเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร หนุนรายได้-ขยายตลาดเพิ่ม

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวว่า ในการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการ ทั้งในส่วนของผู้ผลิตน้ำดื่ม ผู้ผลิตสุกร ไก่เนื้อ และผู้เลี้ยงไก่ไข่ เกี่ยวกับผลกระทบภัยแล้งซึ่งผู้เลี้ยงทั้งหมดยืนยันว่าแม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง แต่หมู ไก่ เนื้อ และไข่ไก่ จะมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และไม่ขาดตลาดอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่าสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแต่อย่างใด แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการเอาเปรียบประชาชน กระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวสสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องในทุกตลาดสด ทุกแห่งทั่วประเทศ และหากประชาชนพบมีการขายราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือ โกงตราชั่ง ให้โทรแจ้งที่สายด่วนกระทรวงพาณิชย์ 1569 นอกจากนี้ ยืนยันว่า ยังไม่พบการกักตุนน้ำดื่มในพื้นที่แต่อย่างใด

ทั้งนี้โฆษกกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ตลาดหนองจอก พบว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาอาหารสดยังทรงตัว อาทิ ไขไก่ ขณะที่ราคาผักสดทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มีผักบางชนิดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมะนาวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกลูกละ 2 บาท มาอยู่ที่ 5 บาทต่อลูก จากสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงราคามะเขือเปราะที่ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง

นอกจากนี้จากการลงพื้นพบว่า ภายในตลาดได้มีร้านอาหารทางเรือง อย่างร้านหนูณิชย์ชวนชิม ให้ประชาชนได้เลือกรับประทาน ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ 20 – 25 บาท ขณะเดียวกัน จากการส่งเจ้าหน้าที่ของกรมชั่งตวงวัด ตรวจตราชั่งในตลาดสด พบตาชั่งได้มาตรฐานทั้งหมดจำนวน 128 เครื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพ่มเติมว่า นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้ระบุว่า จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และราคาขึ้นลงตามฤดูกาลทำให้เกษตรกรบางช่วงขายผลผลิตได้ดี บางช่วงขายไม่ได้ราคานั้น กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะให้เกษตรกรรู้วิธีสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสนับสนุนในเรื่องของการแปรรูป การใช้บรรจุภัณฑ์คุณภาพ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ควบคู่กันไป ซึ่งเท่าที่ผ่านมามีหลายจังหวัดที่ประสบความสำเร็จในเรื่องดังกล่าว เช่น ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ นายชัยยันต์ ยอดคำ พาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ ขานรับนโยบายเพิ่มมูลค่าเพิ่ม โดยที่พืชไร่ที่สำคัญของจังหวัดได้แก่ กระเทียม และหอมแดง สำนักงานฯ ได้ดำเนินการรณรงค์กระเทียมน้ำปาด ซึ่งเป็นกระเทียมพันธ์ไทยแท้ กลิ่นหอมฉุน มีค่าสารอินทรีย์กำมะถันในเนื้อสูงกว่ากระเทียมอื่น ซึ่งทำให้มีรสชาติดี และสามารถเก็บไว้ได้นานเกิน 6 เดือน เหมาะกับกลุ่มนักกีฬา ผู้รักสุขภาพ นับเป็นกระเทียมคุณภาพ ซึ่งสำนักงานฯ เตรียมจะยื่นขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เร็วๆนี้

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังมีจังหวัดอื่นๆ อีกหลายจังหวัดที่ดำเนินการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิต เช่นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าวไปทำเป็นเครื่องสำอาง หรืออาหารเสริม การแปรรูปมันสำปะหลังทำเป็น ไซรับ การทำน้ำตาลจากมะพร้าว ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าเพิ่มที่สูง รวมทั้งการรณรงค์พืชอินทรีย์ เพื่อเชื่อมโยงกับห้างค้าปลีกจัดทำเป็นกรีนมาร์เกต ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และการผลิตสินค้าจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร