โรงพยาบาล รัฐ-เอกชนเชียงใหม่ ลั่นพร้อมอุ้มผู้ป่วยฉุกเฉินฟรี

โรงพยาบาลรัฐและเอกชนเชียงใหม่พร้อมรับนโยบาย 3 กองทุนอุ้มผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาฟรี ไม่คิดเงิน 72 ชั่วโมงนพ.ปิยะสกล สกลสิตยาทร รมว.สาธารณสุข เปิดเผยหลังจากมติที่ประชุมซึ่งมีผู้แทนจากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ระบบประกันสังคม ระบบสวัสดิการข้าราชการ ผู้แทนจากโรงพยาบาลเอกชน และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้หารือถึงมาตรการเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ โดยเห็นตรงกันว่า เมื่อเกิดเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ทุกโรงพยาบาลต้องดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินฟรีในช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นให้ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลตามสิทธิ  ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทันใช้ภายในเดือน เม.ย.นี้ และจะพยายามเร่งให้เสร็จทันก่อนช่วง 7 วันอันตราย ในเทศกาลสงกรานต์ให้ได้

  นพ.ภราดร มงคลจาตุรงค์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าทางโรงพยาบาลนครพิงค์ยินดีดำเนินตามนโยบายของรัฐมนตรีและกระทรวงสาธารณสุข โดยปกติที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้ให้บริการประชาชนในกรณีฉุกเฉินเป็นประจำอยู่แล้ว และเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายนี้จะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินประชาชนก็จะสามารถเข้ารับการพยาบาลได้โดยไม่ต้องกังวล

นพ.วีรชาติ เลิศนิธิกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวชเผยว่าตามที่นโยบาบของรัฐบาลออกมาว่าเมื่อเกิดเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ทุกโรงพยาบาลต้องดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินฟรีในช่วง 72 ชั่วโมงแรกกลุ่มอาการที่เข้าข่ายเจ็บป่วยฉุกเฉินมี 25 ข้อ ประกอบด้วย 1.ปวดท้องบริเวณหลังเชิงกราน และขาหนีบ 2.แพ้ยา แพ้อาหาร แพ้สัตว์ต่อยแอนาฟิแล็กซิส ปฏิกิริยาภูมิแพ้ ฯลฯโดยมีการประสานงานร่วมกัน 3 กองทุนจากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ระบบประกันสังคม ระบบสวัสดิการข้าราชการ ผู้แทนจากโรงพยาบาลเอกชน และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้หารือถึงมาตรการเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ  ความจริงมีกฎระเบียบนี้ออกมาพอสมควร แต่ก็มีข้อขัดข้องในแนวทางปฏิบัติ

โรงพยาบาลเอกชนได้ปฏิบัติกันมาอยู่หลายปีแต่จะมีอุปสักบ้างเล็กน้อยเรื่องจะมีค่าใช้จ่ายสูงในบางรายการเช่นโรงหัวใจมีหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเราจำเป็นต้องสวนหัวใจให้แล้วใส่ขดลวดผ่านเส้นเลือดหัวใจซึ่งแต่ระรายค่าใช้จ่ายด้านการรักษาาพยาบาลสูงเป็นหลักแสนในตรงนี้จะมีปัญหาบ้างแต่ที่ผ่านมาก็มีการเครียประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายไปในปีนี้มีนโยบายออกมาอีกครั้งทางโรงพยาบาลมีความพร้อมดำเนินตามนโยบาลอยู่แล้วร่วมกับการประสานงานกับสพฉ. ประชาชนมั่นใจได้แต่ขอให้ระมัดระวังในการเดินทาง ดื่มเหล้าเมา  ง่วงอย่าขับ  ในส่วนของเรื่องการเบิกจ่ายน่าจะมีปัญหาน้อยลง

ด้านนายยุทธพิชัย  ภักดีภิญโญฤทธิ์ ประชาชนผู้มาใช้บริการทางการแพทย์เปิดเผยว่าจากนโยบายขอบรัฐที่ป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาฟรีได้ทุกโรงพยาบาลถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเราเมื่อใด  เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุเราก็มั่นใจได้ว่าเรามีสถานที่รักษาพยาบาลและตัวผู้ป่วยเองและญาติจะได้ไม่ต้องผวงในเรื่องการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเป็นเรื่องที่ดีมาก