พร้อมรับมือโรค ที่มาจากน้ำในช่วงสงกรานต์นี้

blue_wave_of_water-wide

ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลสงกรานต์ หรือ ปี๋ใหม่เมือง อันลือเลืองของเมืองเชียงใหม่ และ ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ ยังได้ครบรอบ 720 ปี ของการก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ชื่อธีมของการเฉลิมฉลองว่า..2559 ปีแห่งการสมโภช 60 รอบนักษัตร 720 ปีเมืองเชียงใหม่ และเนื่องในวโรกาสการเฉลิมฉลอง 70 ปีแห่งการครองราชย์ ภัทรมหาราชา เตรียมเข้าสู่การเป็นเมืองมรดกโลกซึ่งในช่วงสงกรานต์นั้นได้มีกิจกรรมมากมายที่เกิดขึ้น พร้อมกันการสาดน้ำที่เป็นประเพณีของพี่น้องชาวไทย การเล่นน้ำสงกรานต์นั้นหรือการสาดน้ำก็อาจจะนำภัยร้ายด้านสุขภาพมาสู่ท่านได้เสมอ ทั้งนี้ โรคที่พบบ่อยในช่วงเทศกาลสงกรานต์สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ

1) โรคระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อยคือ อาการไข้ น้ำมูกไหล เป็นหวัด ไข้หวัดใหญ่ เพราะร่างกายปรับสภาพไม่ทันกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนสลับไปมาระหว่างอากาศที่ร้อนอบอ้าวและน้ำเย็นที่สาดใส่กัน ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน หรือโรคปอดบวมซึ่งอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดหรือการติดเชื้อโรค  

2) โรคติดต่อในฤดูร้อน เช่น โรคตาแดงจากการเล่นน้ำไม่สะอาดที่อาจมีเชื้อโรคแฝงอยู่และยังพบมากในช่วงหน้าฝนซึ่งเชื้อจะใช้เวลาฟักตัว 1-2 วันก่อนแสดงอาการ โรคติดต่อจากการรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะตามแหล่งท่องเที่ยวหรือสำลักน้ำปนเปื้อนเชื้อโรคและปรสิต อาทิ โรคอุจจาระร่วง โรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ 

3) โรคที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว เช่น โรคลมแดดหรือฮีทสโตรกที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย การเล่นน้ำในที่โล่งแจ้งที่มีแสงแดดจัดอาจส่งผลให้ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปจนอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิร่างกายปกติอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส) ทำให้สมองไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายได้อาการทั่วไปคือ ตัวร้อนจัด ผิวหนังแห้ง ไม่มีเหงื่อออก มีอาการผิดปกติทางประสาท เช่น เดินเซ กระสับกระส่าย หมดสติ ชีพจรเต้นเร็ว ช็อก หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันเวลาอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ เวลาออกไปเล่นน้ำจึงควรพกน้ำดื่มสะอาดติดตัวไว้ดื่มดับกระหาย เพื่อร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก / อินเทอร์เน็ต

ร่วมแสดงความคิดเห็น