สวนสัตว์เชียงใหม่ แจกน้ำหวานสัตว์

สวนสัตว์เชียงใหม่จัดทำก้อนน้ำแข็งหวานเย็นจากผักผลไม้ เสริมวิตามินบำรุงและตกแต่งสีด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ นำแจกจ่ายให้สัตว์นานาชนิดกินคลายร้อนและผ่อนคลายความเครียดช่วงสภาพอากาศร้อนจัด โดยทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันตลอดช่วงหน้าร้อน พร้อมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวร่วมด้วย

เมื่อวันที่ 1 เม.ย..59 ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายอนุรักษ์วิจัยและสุขภาพสัตว์ ร่วมกันจัดกิจกรรมคล้ายร้อนให้กับสัตว์นานาชนิดในสวนสัตว์ โดยการนำผักและผลไม้ที่เป็นอาหารโปรดของสัตว์แต่ละชนิดแช่แข็ง พร้อมตกแต่งสีสันและรสชาติด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ใบเตย,กระเจี๊ยบ,อัญชัญ เป็นต้น แล้วนำแจกจ่ายให้กับสัตว์นานานาชนิด เช่น ช้าง,ฮิปโปเตมัส,ชะนี,หมีหมา,หมีควาย,ลิง และนาก เป็นต้น ระหว่างเวลา 10.30 -15.00 น.เป็นประจำทุกวันในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด
นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ที่ฤดูร้อนที่สภาพอากาศค่อนข้างร้อนจัด โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยฝ่ายอนุรักษ์วิจัยและสุขภาพสัตว์ จึงได้จัดกิจกรรมคล้ายร้อนให้กับสัตว์นานาชนิดด้วยการทำหวานเย็นที่ทำจากนำผักและผลไม้ที่เป็นอาหารโปรดของสัตว์แต่ละชนิดไปแช่แข็ง ผสมวิตามินอาหารเสริม และตกแต่งสีสันรสชาติด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ นำไปแจกจ่ายให้กับสัตว์ชนิดต่างๆ ในสวนสัตว์ได้กิน
ทั้งนี้เพื่อช่วยให้สัตว์ได้คลายร้อนจากสภาพอากาศ รวมทั้งคลายความเครียดไปพร้อมกันด้วย ซึ่งเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมและสวัสดิภาพสัตว์ โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรมนี้ได้ด้วย ซึ่งนอกจากการทำก้อนน้ำแข็งหวานเย็นคลายร้อนให้สัตว์แล้ว ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ยังมีการฉีดพ่นน้ำในส่วนจัดแสดงของสัตว์หลายชนิดเป็นครั้งคราวด้วย โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้จะมีการดำเนินการต่อเนื่องไปตลอดช่วงหน้าร้อนนี้

นอกจากนี้ ทุกวันอาทิตย์ ทางทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 10 ลำปาง ยังได้ทำการนำรถหุ่นยนต์พ่นน้ำ จำนวน 2 คัน มาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ รวมทั้งคลายความร้อนให้กับสัตว์ป่า เนื่องจากในช่วงนี้ภายในจังหวัดเชียงใหม่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อนและหมอกควัน ประกอบกับสวนสัตว์เชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบด้วยช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมจึงมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา มาเที่ยวสวนสัตว์จำนวนมาก และเพื่อเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศในการท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ อีกทั้งเป็นการเพิ่มสวัสดิภาพของสัตว์ทุกชนิดในสวนสัตว์เชียงใหม่อีกทางหนึ่งด้วย

ที่สันกำแพงผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 1เม.ย.59 นายชัยณรงค์ นันตาสาย ปลัดอาวุโส อำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่าได้ร่วมกับ นางแจ่มจันทร์ ล่ามช้าง เกษตรอำเภอสันกำแพง และคณะกรรมการผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ออกไปเยี่ยมเกษตรกรไปตามหมู่บ้าน ที่ทำการเกษตรใช้น้ำน้อย (หรือน้ำหยด) ตามโดรงการตำบลละ 5 ล้านเกษตรพอเพียงหน้านี้เป็นหน้าแล้งต้องประหยัดน้ำ

ปลัดอาวุโสกล่าวว่า ส่วนรายละเอียดคือทางเกษตรกร จะสร้างโรงเรือนด้วยโครงเหล็กหรือไม้ไผ่แล้วแต่เกษตรกร จากนั้นจะคุมด้วยพลาสติกมีประตูปิดเปิดเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูพืชเข้าไปได้ แล้วเอากากมะพร้าวมาบรรจุในถุงพลาสติกขนาดปากกว้า 20 ชม. จะปลูกพืชที่เป็นเครือตามที่เกษตรกรต้องการเช่น พืชองุ่น แคนตาลูป แตงกวา มะเขือเทศพันธุ์ลูกเล็ก พืชที่เป็นเครือฯแล้วแต่ทางเกษตรกรจะนำมาปลูก เพื่อให้พืชที่ปลุกเอาเครือขึ้นไปตามเชือกที่วางไว้เป็นจุดๆ ติดตั้งถังน้ำขนาดหลายพันลิตรไว้ในไร่พืชผสมปุ๋ยเคมีในถังน้ำ ติดตั้งวาล์วปิดเปิดไว้ที่ถังน้ำวางระบบประปาวางท่อซีพีวีแล้วเอาสายยางเล็กที่สูดสีดำต่ออีกที่วางไปตามไร่เข้าสู่ลำต้นพืชที่ปลุกไว้ในถุงพลาสติกเปิดวาล์วน้ำให้น้ำหยดที่ละหยดพอชื้นแล้วพอปิดวาล์ว แล้วค่อยเปิดวาล์วใหม่ ส่วนเนื้อที่ปลูกพืชของเกษตรกรที่ใช้น้ำหยด มีตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไปแล้วแต่เกษตรกรประมาณ 1 เดือนจะมีเนื้อที่ปลูกสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นกอบเป็นกำ เพราะมีที่รองรับอยู่แล้วประหยัดเวลาไม่ต้องออกแรงไปรดน้ำลงทุนไปแล้วคุ้มค่าไม่มีขาดทุน บางตำบลการเกษตรทำมาก่อนมาแล้วจึงมาเข้าร่วมโครงการตำบลละ 5 ล้านอีกขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

ส่วนกษตรกรที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อย(หรือน้ำหยด) ในอำเภอสันกำแพงมี 10 ตำบล มี ต.สันกลางหมู่ 1-7 จำนวน 12 ราย ต.ต้นเปา 1 ราย ต.แช่ช้าง 3 ราย ต.ร้องวัวแดง 3 ราย ต.สันกำแพง 2 ราย ต.ออนใต้ 1ราย ต.บวกค้าง 2 ราย และ ต.ห้วยทราย 1 ราย ที่ไม่ทำการเกษตรมี 2 ตำบล นอกจากนั้นซึ่งมีทางเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอที่รับผิดชอบเรื่องของการเกษตรทุกตำบลที่กล่าวมาแล้ว จะให้ความรู้คอยแนะนำจนเกษตรกรในตำบลประสบความจำเสร็จไปตามๆกัน บางตำบลสามารถส่งผลผลิตทางการเกษตรส่งออกนอกประเทศก็มี นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานที่ทำการเกษตรต่างประเทศและต่างจังหวัดในประเทศมาดูงานเป็นประจำเพื่อมาศึกษาหาความรู้การทำเกษตรพอเพียง นับว่าเกษตรกรประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหน้าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก