วันที่ 5 เม.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการดำเนินการก่อสร้าง 4 แยก ถนนสมโภชเชียงใหม่ 720 ปี ที่ได้มีการเปิดใช้งานในวันนี้เป็นวันแรก โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานจราจรเชียงใหม่ ได้ร่วมกันลงตรวจพื้นที่และดูแลความปลอดภัย รวมทั้งสำรวจปัญหาการใช้เส้นทางดังกล่าวพบว่า ถนนสายดังกล่าวมีการระบายรถและการจราจรที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากก่อนหน้านี้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะมีปัญหาในเรื่องของการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากถนนแคบและเส้นทางการระบายรถที่ค่อนข้างยากลำยาก
โดยทาง พ.ต.ท.พชรพล วงศ์รจิต รองผู้กำกับการกลุ่มงานจราจรเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดใช้เส้นทางถนนสายใหม่ตั้งแต่บริเวณถนนสายนิมมานเหมินทร์ กระทั่งถึงบริเวณปากทางกองบิน 41 ถึงเรียกว่าเป็นถนนสมโภชเชียงใหม่ 720 ปี โดยได้มีการเริ่มเปิดทดลองใช้ในวันนี้เป็นวันแรก ดังนั้นในเรื่องของการจราจรอาจจะยังมีผู้ใช้รถใช้ถนนสับสนกันอยู่บ้าง คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้าจะดีขึ้นมากกว่านี้ ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบสภาพโดยทั่วไปแล้ว การเปิดใช้เส้นทางตรงจุดนี้จะช่วยเรื่องของการแก้ไขปัญหาการจราจรได้ดีและช่วยให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น
สำหรับการใช้เส้นทางนั้น ผู้ที่เดินทางมาจากเส้นตลาดต้นพยอม เข้ากองบิน 41 ต้องมาใช้เส้นทางที่แยกนี้อย่างเดียว เนื่องจากปากทางกองบิน 41 เดิม ทำการปิดไม่ให้ใช้งาน จากบริเวณดังกล่าวเป็น 3 แยก ใกล้กับ 4 แยกที่มีอยู่ติดกันถึง 2 จุด ซึ่งต้องทำการปิดเพราะไม่งั้นการบริหารจัดการ จราจรจะทำได้ยาก และจะมีปัญหารถติดขัด ส่วนรถที่เดินทางขึ้นมาจากถนนสายสุเทพ ก็สามารถวิ่งตรงไปยังเส้นทางหลัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามปกติ แต่ถ้าจะเข้ากองบิน 41 ก็สามารถเลี้ยวเข้าที่จุดนี้ได้เลย ส่วนรถที่มาจากเยี่ยถนนนิมมานเหมินท์ ก็สามารถวิ่งตรงเข้าไปที่ แยกกองบิน 41 ได้เลย หรือเลี้ยวขวาไปที่ตลาดต้นพยอม และเลี้ยวซ้ายก็จะไปที่ทางโรงพยาบาลสวนดอกได้เช่นเดิม
โดยในการดำเนินการเปิดใช้เส้นทางใหม่นี้คาดว่าจะช่วยแบ่งเบาเรื่องปัญหาการจราจรถนนสายสุเทพ ได้ดีขึ้นกว่าเดิมรวมถึงการจราจรบนถนนสายนิมมานเหมินด้วย ซึ่งจากการสังเกตจะพบว่าช่วงเช้าเวลาประมาณศูนย์ 08.00 -11.00 น. ปริมาณรถแยกนี้ จะมีเยอะมาก เพราะจากเดิมเป็นทาง 3 แยก แต่พอได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นทาง 4 แยก ก็สามารถเร่งระบายรถได้ดีขึ้น ประกอบกับปริมาณรถที่สะสมก็มีปริมาณลดน้อยลงด้วย แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงเป็นการทดลองใช้อยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มงานจราจรก็จะขอดูสถานการณ์ไปก่อน ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อน ส่วนการทดลองก็จะทดลองอยู่ประมาณ 1 เดือน และจะมีการประเมินในเรื่องของสัญญาณไฟจราจร ทิศทางการจราจร ว่าเหมาะสมหรือไม่และจะดำเนินการแก้ไขปัญหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสมบูรณ์ แต่จากการดูจากภาพรวมน่าจะดีกว่าเดิม
รองผู้กำกับกลุ่มงานจราจรเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะเดียวกันตอนนี้ยังมีปัญหาในจุดที่อาจจะมีการเกิดอุบัติเหตุคือ ปากทางเข้ากองบิน 41 เนื่องจากถนนสายสนามบินเก่านั้น ยังมีการเปิดให้รถสวนทางกันได้ ในลักษณะเส้นทางทูเวย์อยู่ ซึ่งก็จะมีปัญหาในเรื่องของรถจากสนามบินเก่า ที่จะวิ่งเข้าไปที่กองบิน 41 กลับรถที่มาจากถนนสาย 720 ปี ไปเจอกันที่ปากทางเข้ากองบิน 41 พอดี โดยจริงๆ แล้ว ได้มีการกำหนดให้รถที่เข้าทางสนามบินเก่านั้น ห้ามวิ่งตรงเข้าประตูกองบิน และให้วนกลับมายูเทิร์นพี่ถนนสาย 720 ปี จึงจะเข้ากองบิน 41 ได้ ซึ่งตรงจุดนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ โดยทางกลุ่มงานจราจรเชียงใหม่ ต้องขอดูอีกซักระยะหนึ่งเพื่อประเมินปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะหาทางแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรตรงบริเวณดังกล่าว โดยส่วนตัวต้นคาดว่าจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดได้ดีขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากแต่เดิมตรงจุดนี้จะเป็น 3 แยก และเลยไปอีกไม่เกิน 100 เมตร ทางทิศตะวันตก ก็จะเป็น 3 แยก ปากทางกองบิน 41 จากนั้นเมื่อเลยไปอีก 100 เมตร ก็จะถึงแยกต้นพยอม จึงกลายเป็นว่าทางแยกนั้น อยู่ติดกันมากเกินไป จึงทำให้การรับรถ มีปัญหามากขึ้น แต่เมื่อได้มีการดำเนินการปรับเปลี่ยนเป็น 4 แยก และมีการปิด 3 แยกตรงกลาง แล้วไปใช้แยกต้นพยอม จึงทำให้มี 4 แยก กับ 4 แยก ซึ่งสัญญาณไฟจราจรสามารถรับกันได้ และยืดระยะทางออกไปเป็น 100 เมตร ทำให้สามารถที่จะรองรับปริมาณรถได้ดีขึ้น
ขณะที่ทาง นายเอกนรินทร์ จินทะวงค์ ผอ.ส่วนสำรวจและออกแบบ สำนักทางหลวงที่ 1 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การดำเนินการนี้ได้มีการเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยได้มีการวางแผนในการที่จะเชื่อมวงแหวนด้านในของตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เป็นรูปตัว O ซึ่งปัจจุบันถ้ามองจริงๆ เป้นรูปตัว C โดยตามหลักทางวิศวกรรมจราจรนั้นพบว่าไม่มีความเหมาะสมโดยหากพิจารณาแยกตั้งแต่แยกรินคำมาจนถึงแยกสาธารณสุข และจากแยกสาธารณสุขมาจนถึงประตูทางเข้ากองบิน 41 แล้วจากประตูทางเข้ากองบิน 41 ไปจนถึงด้านหน้าสนามบินเชียงใหม่ ซึ่งเป็นส่วนที่กรมทางหลวงคิดไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ที่ต้องการจะเชื่อมวงแหวนด้านในของเมืองเชียงใหม่ให้สมบูรณ์ และภายหลังจากที่ได้มีการเวียนคืนเมือปี พ.ศ.2548 จนถึงปัจจุบัน ก็ได้รับงบประมาณเมื่อปี พ.ศ.2558 ที่ผ่านมา ในส่วนที่ 2 ก่อน ที่ได้ดำเนินการเปิดใช้งานในวันนี้ โดยในส่วนที่ 2 ที่ได้ดำเนินการในครั้งนี้ได้รับงบประมาณก่อสร้างประมาณเกือบ 30 ล้านบาท โดยออกแบบเป็น 6 ช่องจราจร ด้านช้ายและด้านขวาแบ่งออกเป็นอย่างละ 3 ช่องจราจร แต่จะมีเลนจอดรถให้ทั้ง 2 ฝั่ง หรือจริงๆ ก็คือ 4 ช่องจราจร โดยในส่วนที่ 2 ที่ได้รับการเวียนคืนมาเมื่อเกือบ 10 ปี และได้รับงบประมาณในการก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปด้วยดี เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ก็ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการดำเนินการของโครงการนี้เป็นอย่างดี แต่ในส่วนที่ 1 และส่วนที่ 3 ยังอยู่ในระหว่างของการวางแผนการดำเนนินการซึ่งจะได้มีการประชุมและแจ้งให้ทราบต่อไป
****ล่าสุดทางกองบิน 41 แจ้งความชัดเจนอ่านมาแล้วว่า ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2559ทางกองบิน 41 อนุโลมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาจราจรโดยให้รถที่ไม่มีบัตรอุนญาต ผ่านได้ช่วงเวลา 16.00-20.00 น.
รถที่มีบัตรผ่านอนุญาต 06.00-22.00 น. ตามปกติ
รถที่ผ่อนผัน เฉพาะรถจักรยานยนต์กับรถยนต์สว่นบุคคลไม่อนุญาตรถสี่ล้อแดงหรือรถรับจ้างทุกชนิด
ต้องปฏิบัติตามกฎ สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับคนซ้อน คาดเข็มขัดนิรภัย
ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ร่วมแสดงความคิดเห็น