กรมการขนส่งทางบก ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์เงื่อนไขการอนุญาตให้รถต่างประเทศข้ามพรมแดน

 
กรมการขนส่งทางบก ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์เงื่อนไขการอนุญาตให้รถต่างประเทศข้ามพรมแดนมาใช้ในประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว จะมีผลบังคับใช้ใน 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์การบังคับใช้กฎหมายตามประกาศฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้รถในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง

รถเข้าไปเทศชั่วคราว-แก้ไขแล้ว2
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการควบคุมการนำรถต่างประเทศข้ามพรมแดนเข้ามาใช้ในประเทศไทย กรมการขนส่งทางบกได้ลงนามในประกาศกรมการขนส่งทางบก กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาตระยะเวลาในการใช้รถและเครื่องหมายแสดงการใช้รถที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อใช้ในการท่องเที่ยวหรือการอื่นใด ที่มีความจำเป็นเฉพาะกรณี พ.ศ.2559 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์นี้ เพื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อพ้น 60 วัน นับแต่วันที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมิถุนายน 2559 นี้

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สาระสำคัญของประกาศฯ กำหนดให้รถที่จะนำข้ามพรมแดน เข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวได้ต้องเป็นรถยนต์นั่งไม่เกิน 9 ที่นั่ง(นับรวมคนขับ)รถยนต์บรรทุกที่มีน้ำหนักรวมบรรทุกไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม โดยไม่รวมรถตู้, รถบ้าน, และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้อนุญาตให้นำมาใช้ได้เฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่ผ่านด่านศุลกากรเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาอุบัติเหตุและการจราจรตลอดจนการควบคุมใช้รถตามกฎหมายไทย โดยกำหนดให้สามารถนำรถเข้ามาได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน รวมแล้วต้องไม่เกิน 60 วัน ในรอบปีปฏิทิน และต้องเป็นการยื่นขออนุญาตผ่านผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ได้รับการรับรองเท่านั้น ซึ่งต้องแจ้งขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันทำการต่อสำนักงานขนส่งจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของด่านพรมแดนศุลกากรที่จะนำรถเข้ามา โดยต้องมีหลักฐานครบถ้วน ประกอบด้วย สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาใบอนุญาตขับรถตรงตามประเภทของรถที่ยื่นขออนุญาตและต้องมีอายุเหลือ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน สำเนาหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ, ภาพถ่ายตัวรถ, หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ, รายละเอียดการเดินทาง, สำเนาหลักฐานการเอาประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและหลักฐานการเอาประกันภัยประเภท 3 ซึ่งมีความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอกไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท/คน/ครั้ง และมีความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท/ครั้ง และหลักฐานของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เอกสารทุกฉบับต้องแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ และมีอัตราค่าธรรมเนียมการขออนุญาตรถคันละ 500บาท และค่าเครื่องหมายแสดงการใช้รถแผ่นละ 500 บาท

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพื่อให้มาตรการรองรับนักท่องเที่ยวนำรถข้ามพรมแดนมีแนวทางปฏิบัติชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ได้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซักซ้อมการทำงานและประชาสัมพันธ์การบังคับใช้กฎหมายตามประกาศฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้รถและปฏิบัติตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด ได้แก่ ใช้รถได้เฉพาะภายในเขตจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของด่านศุลกากรที่เข้ามาและต้องออก ณ ด่านพรมแดนศุลกากรในจังหวัดเดียวกัน ต้องติดเครื่องหมายแสดงการใช้รถไว้ในบริเวณที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีใบอนุญาต ขับรถที่กฎหมายไทยรับรอง กรณีไม่มีต้องไปขอรับในวันแรกที่เข้ามาในประเทศที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขาในจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของด่านพรมแดนศุลกากรมีสัญญาและกรมธรรม์ประกันภัย มีสำเนาหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถพร้อมฉบับแปล และต้องปฏิบัติตามกฎจราจรและกฎหมายอื่นๆ ของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายไทยทันที โดยผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย จะบันทึกประวัติความผิดของทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไว้ในระบบฐานข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาการอนุญาตต่อไป อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น