จัดเสวนาเสริมทักษะการลงทุนเจาะตลาด AEC

b1 w=9h=6 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดเสวนาเสริมทักษะการลงทุนเจาะตลาด AEC พร้อมนำทัพผู้แทนจำหน่ายพบผู้ผลิต ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือ หวังเพิ่มพลังธุรกิจและขีดความสามรถผู้ประกอบการไทยสู่สนามการแข่งขันในอาเซียน ด้านรองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผย IMF ได้มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2559 ตลาดอาเซียนก็ยังมีแนวโน้มในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ในด้านการค้าระหว่างประเทศเจาะตลาดอาเซียน “AEC Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียนอย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดอาเซียนในภูมิภาค ณ โรงแรมอีสติน ตัน เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

b2 w=27h=7
โดยนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กิจกรรมเสวนาในครั้งนี้เป็นกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ทางด้านการค้าในการเจาะตลาดอาเซียน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของโครงการที่ได้มาจัดในส่วนภูมิภาค โดยได้ถือเอาจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกในการเริ่มโครงการนี้ ซึ่งโครงการนี้จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า การเปิดประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 ก็ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนภายในภูมิภาคอาเซียนทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก และที่สำคัญจะเป็นในเรื่องของการที่ผู้ประกอบการธุรกิจควรจะให้ความสำคัญ เพื่อที่จะได้นำมาปรับใช้ตามนโยบายในการดำเนินธุรกิจ และรวมถึงช่องทางโอกาสต่างๆในการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ตลาดอาเซียนเองเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นตลาดการส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย จะเห็นได้จากในปี 2558 ในการส่งออกของไทยไปในภูมิภาคอาเซียนมีมูลค่า 1.8 ล้านล้าน บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกของประเทศไทยทั้งสิ้น

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้แล้วทาง IMF ก็ได้มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2559 ตลาดอาเซียนก็ยังมีแนวโน้มในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือ CLMV ประกอบด้วย (ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) จะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 7.5 ในขณะที่ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เช่น ฟิลิปินส์ ก็จะมีการขยายตัวร้อยละ 6.3 ด้วยเหตุนี้เองจะเห็นได้ว่าอาเซียนมีบทบาทต่อภาคธุรกิจของไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการควรจะใช้โอกาสจัดการในการเป็นประชาคมอาเซียน และความใกล้ชิดในฐานะที่เป็นมิตรประเทศไม่ว่าจะเป็นเรื่องของด้านสภาพภูมิศาสตร์ ความใกล้เคียงกันในด้านสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงการไปเป็นหุ่นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการนี้เองกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็ได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางการค้าและการลงทุนในระดับภูมิภาคสำหรับผู้ประกอบการไทยในแวดวงธุรกิจ จึงได้จัดเสวนาครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์และเสริมสร้างองค์ความรู้ทางการค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ นักธุรกิจรุ่นใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือ ให้ได้มีมุมมองที่ดีและมองเห็นถึงโอกาสตลอดจนรับทราบถึงกระบวนการทำการค้าระหว่างประเทศอย่างมีระบบ สามารถบริหารจัดการรวมถึงดำเนินการด้านการตลาดให้ประสบผลสำเร็จ และเกิดความยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล และแบ่งปันประสบการณ์ รวมถึงให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั้งในด้านการตลาด รูปแบบการเข้าสู่ตลาดของประเทศสมาชิกอาเซียน ช่องทางในการสร้างโอกาสให้เกิดการค้าต่างๆ การพัฒนาและการสร้างแบรนด์เพื่อพิชิตตลาด AEC นากจากนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้แทนจำหน่ายในตลาดอาเซียนและเอเชียเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อเน้นการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยรุ่นใหม่ให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนหรือร่วมธุรกิจระหว่างกันเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง ในนามของ DITP AEC CLUB นอกจากนี้แล้วกรมส่งเริมการค้าระหว่างประเทศและพันธมิตร ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน และธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ก็ได้จัดให้มีการปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการทุกคนสามารถใช้ประโยชน์เหล่านี้ได้ นายสมเด็จ กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น