มาแปลก!! หนุ่มอาสาฯ รับบริจาคผ้าอนามัย

S__43794464

มาแปลก หนุ่มหัวหน้าโครงการอาสาสมัคร เปิดรับบริจาคผ้าอนามัย ช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เหตุเพราะสงสารเนื่องจากขาดแคลนผ้าอนามัย ต้องไปนั่งริมลำธารทุกครั้งที่ประจำเดือนมา ด้านโลกโซเชียลทราบข่าวแห่ช่วยเหลือ พร้อมชื่นชมความมีน้ำใจ ล่าสุดปริมาณของบริจาคเพียงพอแล้ว พร้อมเตรียมนำเข้าไปมอบช่วงกลางเกือน ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โลกโซเชียล ได้มีการแชร์ข้อมูลซึ่งเกี่ยวกับการรับบริจาคของเครื่องใช้ให้กับผู้ยากไร้และผู้อยู่ถิ่นทุรกันดาร แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ กรณีดังกล่าวเป็นการที่ได้มีการประกาศรับบริจาคผ้าอนามัยสำหรับเด็กๆ ยากจน จำนวน 170 คน ซึ่งอยู่ในพื้นที่บนดอย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยภายหลังทราบชื่อผู้รับบริจาค คือ นายปกรณ์ หอมโชติ โดยได้ระบุข้อความในการรับบริจาคครั้งนี้ว่า “รับบริจาคผ้าอนามัยสำหรับเด็กๆ บนดอยอมก๋อย เนื่องด้วยความขาดแคลน ทำให้บรรดาเด็กๆ ที่เริ่มมีประจำเดือนซึ่งไม่มีผ้าอนามัย เวลามีประจำเดือนต้องไปนั่งริมน้ำ ริมห้วย เป็นที่น่าสงสารมาก เขาแค่ไปนั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร จริงอยู่เราไม่สามารถทำให้เป็นโครงการที่ยั่งยืนในเวลานี้ แต่ก็คงพอช่วยบรรเทาทุกข์นั้นไปได้บ้าง โดยเราจะนำไปแจก ณ หมู่บ้านทีผะแหล่ วาเมทะ มอโพทะ สเลเดคี ปริโกร ตะกอคะ และทีตะอึคี อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีเด็กๆ สาวเข้าข่าย 170 คน ซึ่งรวบรวมได้มากพอจะนำไปมอบให้น้องๆ รับแต่ผ้าอนามัย ไม่รับเงิน จัดส่งมาที่ นายปกรณ์ หอมโชติ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพนมทวน ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110” โดยเมื่อข่าวนี้ได้แพร่กระจายออกไปในโลกโซเชียล ทำให้มีผู้สนใจและติดต่อช่วยเหลือกันเป็นจำนวนมาก และวิพากษ์วิจารณ์ว่าถือเป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ พร้อมทั้งชื่นชมผู้ที่ดำเนินโครงการที่ได้ช่วยเหลือกลุ่มเด็กๆ เหล่านี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง นายปกรณ์ หอมโชติ เจ้าของโครงการนี้เพื่อสอบถามถึงความเป็นมาของโครงการ โดยทางเจ้าตัวได้ระบุว่า โครงการที่ได้จัดทำขึ้นในครั้งนี้มีที่มาจากทางกลุ่มของตนซึ่งเป็นกลุ่มคนอาสาเพื่อแผ่นดิน ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้ยากไร้และผู้อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งได้มีการดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน เรื่องงานประปาภูเขา และสร้างแผงโซล่าเซลล์ อีกทั้งการศึกษานอกโรงเรียน โดยทางกลุ่มตนได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือตามหมู่บ้านทั้ง 7 หมู่บ้านดังกล่าวในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทุรกันดาร และยากต่อการเดินทางเข้าไปถึง ซึ่งขณะนั้นได้ทราบข้อมูลจากทางครูเมย์ ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกอาสาสมัคร ที่เสียสละตนเองเข้าไปเป็นครูสอนเด็กๆ อยู่บ้านทีผะแหล่ มาแล้วระยะหนึ่ง โดยทราบว่าขณะเวลาที่ครูเมย์สอนหนังสืออยู่นั้นเด็กๆ ดดยเฉพาะเด็กหญิงมักจะขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำอยุ่บ่อยครั้ง และหายไปเป็นเวลานานผิดปกติ จนต้องตามไปดูก็ทราบว่าเด็กผู้หญิงเหล่านี้ไปไปล้างประจำเดือนอยู่ที่ลำห้วย เนื่องจากเป็นประจำเดือนและไม่มีผ้าอนามัยใส่ นอกจากนี้แล้วยังทราบมาอีกว่าเวลากลางดึกหากประจำเดือนมาก้ต้องมานั่งอยู่ริมห้วยท่ามกลางความมืด

โดยเมื่อทางกลุ่มอาสาของตนทราบข้อมูลดังนั้นจึงได้มีการประชุมและจัดทำเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งเริ่มแรกได้มีการแชร์ข้อมูลกันแค่ในกลุ่มของตน แต่เนื่องจากในปัจจุบันกระแสข่าวโซเชียลได้แพร่ออกไปเร็วมากจึงทำให้มีผู้สนใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ทางตนก็ขอชี้แจงเกี่ยวกับโครงการด้วยว่าโครงการที่ได้ทำนี้ไม่ต้องการรับเงินสด และอยากเน้นเป็นโครงการในแบบพี่ช่วยน้อง คือหากผู้ต้องการช่วยเหลือไปซื้อผ้าอนามมัยก็ซื้อมาเผื่อ ไม่จำเป็นต้องซื้อมาทำละมากๆ นอกจากนี้จากการที่มีผู้สนใจช่วยเหลือกันเป็นจำนวนมากหลังจากทราบข่าวทำให้มีผู้ใจดีช่วยเหลือบางรายนอกจากนะส่งผ้าอนามัยมาแล้วยังมีการส่งชุดชั้นใน และยาแก้ปวดประจำเดือน มาช่วยอีกด้วย อย่างไรก็ตามตนคาดว่าตอนนี้ปริมาณของที่รับบริจาคน่าจะมากพอสมควรแล้ว โดยตนกำลังหารือกับทางกลุ่มเพื่อแจ้งปิดรับการบริจาคชั่วคราวไปก่อนในวันศุกร์ที่ 8 เม.ย. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากเมื่อมีของบริจาคมากเกินไปจะยากลำบากต่อการบรรทุกเข้าไปแจกจ่าย เพราะเส้นทางที่จะเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านของเด็กๆ ในพื้นที่ อ.อมก๋อย นั้นเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างยากต่อการเข้าถึง ประกอบกับต้องใช้รถกระบะ 4 วิน เดินทางบรรทุกของเข้าไปเพียงอย่างเดียว โดยทางกลุ่มจะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อนำของบริจาคที่ได้นำไปมอบให้กับเด็กๆ ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น