โจรโหด…ชิงทรัพย์ร้านทองกาดหลวง!!

150994

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ร.ต.อ.นคร อุ่นตาล ร้อยเวร สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ร้านทองเสือมังกร ภายในตลาดวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก. และกำลังฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุพบว่ามีคนบาดเจ็บจากการสกัดกั้นคนร้าย 3 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.ลานนาไปแล้ว ภายหลังทราบชื่อว่านายจักรกฤษณ์ คำหยาด อายุ 24 ปี ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่แขน และท้องบาดเจ็บสาหัส นายไพจิตร คำหยาด อายุ 64 ปี บาดเจ็บที่แขน คนเจ็บทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุประมาณ 70 ปี มาเลือกซื้อดอกไม้แต่คนร้ายวิ่งผ่าน และเห็นว่าขวางทาง จึงใช้อาวุธมีดแทงจนบาดเจ็บไปอีกราย จากการสอบถาม น.ส.เกศนีย์ แก้วอิ่นคำ อายุ 30 ปี พนักงานร้านทองให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายชาย สวมเสื้อสีเขียวลายพรางทหารแขนสั้น กางเกงขายาว รองเท้าแตะสีดำ สะพายกระเป๋าย่ามเข้ามาทำทีเป็นลูกค้าเลือกซื้อทองตามปกติ จากนั้นก็ได้ทดลองใส่ดูว่าชอบเส้นไหน ซึ่งตนเลือกสร้อยคอออกมาให้ดูหลังจากที่คนร้ายเอาสร้อยคอลายหวายมะรุมเงา น้ำหนัก 2 บาท มูลค่า 52,000 บาทใส่ที่คอแล้วก็ถามราคาว่าเท่าไหร่พร้อมกับทำทีควักกระเป๋าสตางค์และเอาบัตรเอทีเอ็มออกมาจะยื่นให้ เมื่อได้จังหวะคนร้ายกลับเดินออกจากร้านวิ่งหนีไปทางห้องน้ำของตลาด กระทั่งไปทำร้ายเจ้าของร้านที่ขายเครื่องสังฆภัณฑ์ และชาวบ้านที่มาซื้อของบาดเจ็บอีก 3 คนดังกล่าว ต่อมาตำรวจพบกระเป๋าของคนร้ายที่ทำตกไว้หน้าร้านสังฆภัณฑ์ ทราบว่าคนร้ายคือนายหลู่ เสาร์คำ​ อายุ ​39 ​ปี​ เป็นชาวไทยใหญ่ อาศัยอยู่ที่ ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พยานระบุว่านายหลู่มีรูปหน้าตรงกับรูปในบัตรประจำตัวฯ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับคนเจ็บสาเหตุเพราะเข้าไปขัดขวางไม่ให้คนร้ายหนี หลังจากพ่อค้า-แม่ค้า พยายามตะโกนให้พลเมืองดีช่วยจับโจร โดยคนเจ็บทั้ง 2 พยายามจับตัวเลยถูกคนร้ายแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้นมีหญิงชราวัย 70 กำลังเลือกซื้อของ คนร้ายเห็นว่าขวางทางจึงใช้มีดเล่มเดิมแทงเข้าไปอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปขึ้นจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณศาลเจ้าใกล้ ๆ ตลาดก่อนจะหลบหนีไปได้ พ.ต.อ.วีระยุทธ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทราบชื่อพร้อมกับได้หลักฐานต่าง ๆ แล้วว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นใคร ประกอบกับได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุชัดเจน ซึ่งขณะนี้ก็ได้สั่งให้มีการระดมปิดล้อมตามเส้นทางต่าง ๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีพร้อมกับแจกภาพของคนร้ายไปยังสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับด้วย เพราะคดีนี้ถือว่าเป็นการก่อเหตุแบบอุจฉกรรจ์ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทั้งเรื่องของการชิงทรัพย์ในตอนเช้าที่มีคนพลุกพล่าน และยังทำร้ายผู้อื่นบาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด. “

ร่วมแสดงความคิดเห็น