เดินเครื่อง สร้างจุดแข็งสินค้าไทยบุกนอก

b4 w=14h=8
สร้างจุดแข็งสินค้าไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เร่งเครื่องเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อตอกย้ำนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการของไทย ด้วยตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (TTM) ซึ่งการันตีมาตรฐานสินค้าไทยในต่างแดนให้แก่ผู้ประกอบการ เครื่องหมายที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสินค้าและบริการของไทย เน้นย้ำว่าตราสัญลักษณ์ TTM ถือเป็นใบเบิกทางธุรกิจและสามารถสร้างความเข้มแข็งของสินค้าและบริการในภาคการส่งออกของไทยให้ยั่งยืนในแถบอาเซียน และตลาดโลกในอนาคตอันใกล้

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark หรือ TTM เป็นเครื่องหมายบ่งชี้สำคัญในด้านคุณภาพและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการของไทยในตลาดโลก ถือได้ว่าเป็นสินค้าและบริการที่ได้รับการเลือกสรรว่าเป็นสินค้าชั้นเยี่ยมจากประเทศไทย มีมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้ อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล เป็นแหล่งผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพที่ทั่วโลกไว้วางใจ ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าและบริการไทยในตลาดโลก ในทุกๆปี จะมีผู้ประกอบการส่งออกไทยให้ความสนใจขอรับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark เป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมฯ ได้มีการเปิดรับสมัครให้ผู้ประกอบการส่งออกสามารถลงทะเบียนสมัครเข้ารับตราสัญลักษณ์ TTM ได้ถึง 3 ครั้ง ทุกๆ 4 เดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีการพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติครบตามที่กำหนด ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการส่งออกไทยได้รับตราสัญลักษณ์ TTM ตั้งแต่ปี 2555-2558 แล้วกว่า 510 บริษัท หากแต่ที่ผ่านมาผู้สมัครบางส่วนยังไม่เข้าใจถึงหลักเกณฑ์การพิจารณา และตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อมและการดำเนินการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมค่อนข้างน้อย ทางสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า จึงได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฯ นี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดกิจกรรมสัมมนาตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ทุกภาค อาทิ กิจกรรม Thailand Trust Mark Sustainable Day ซึ่งเน้นหัวข้อหลักในการสัมมนา คือ ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของการทำธุรกิจที่มีส่วนช่วยพัฒนาสังคม ด้านการรับรองมาตรฐานโดยหน่วยงานภาครัฐแบบบูรณการ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้ส่งออก ได้รับความรู้เกี่ยวกับตราสัญลักษณ์ TTM เพิ่มมากยิ่งขึ้น”
“ปัจจุบันความคาดหวังของผู้บริโภคมีสูงขึ้นผู้บริโภคมองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง และเป็นข้อได้เปรียบที่ภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของไทยในตลาดโลกนั้น เป็นที่ยอมรับว่าเป็นสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงในสายตาผู้บริโภค เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดโลก และประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียแปซิฟิค กรมฯ จึงมีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการของไทยในตลาดโลก โดยได้จัดทำตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ มอบให้กับผู้ประกอบการที่มีคุณภาพผ่านมาตรฐานในระดับประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งมีภาพลักษณ์องค์กรที่ดี ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สินค้าส่งออกของไทยบางรายการมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีนักในเวทีโลก เช่น แรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมง ประกอบกับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการบริโภคสินค้าที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและประเด็นทางสังคม เช่น การคุ้มครองแรงงาน การตอบแทนสังคม ดังนั้น การมีตรา Thailand Trust Mark จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเชิงคุณภาพของสินค้าและบริการ และจริยธรรมของผู้ประกอบการไทย เพื่อเสริมสร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นของประเทศคู่ค้าและผู้บริโภคในตลาดโลกในด้านแหล่งกำเนิดสินค้าจากประเทศไทย สร้างทัศนคติและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ และยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าไทย ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในระดับสากล” นางจันทิรา กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิศักดิ์ พิพัฒนติกานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โจ-ลี่ แฟมิลี่ จำกัด กล่าวว่า “เราทำธุรกิจภายใต้ชื่อบริษัทว่า โจ-ลี่ แฟมิลี่ เพราะเรามีชื่อว่า โจ และ ลี่ เราเป็นเพื่อนกันจนกลายเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน เราผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้แปรรูปอบกรอบเพื่อสุขภาพ ผลิตขึ้นด้วยนวัตกรรมการถนอมอาหารที่ดีที่สุดอย่าง “Freeze-dried” เป็นวิธีการที่รักษาคุณค่าทางอาหารไว้อย่างครบถ้วนมากที่สุด คัดเลือกผลไม้เขตร้อนถูกปากคนไทยอย่างทุเรียนและมะม่วง รวมถึงผลไม้ถูกปากคนต่างชาติอย่างพีชหรือสตรอว์เบอร์รี่ Wel B เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนรักสุขภาพ เพราะปราศจากน้ำมัน และสารปรุงแต่ง รักษาคุณค่า ของอาหารไว้อย่างเต็มที่ ผลไม้กรอบที่ไม่ว่าจะกินโดยตรง นำมาโรยซีเรียล หรือปั่นรวมกับผลไม้สดและโยเกิร์ตเป็นสมูทตี้ ก็ให้รสชาติความสดชื่นและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และด้วยความมุ่งมั่นในการคัดเลือกวัตถุดิบ ผลไม้เขตร้อนอย่างมะม่วงหรือทุเรียน ไปจนถึงผลไม้ที่ถูกใจคนทั่วโลกอย่าง สตรอวเบอร์รี่ พีซ และแอพริคอต ทำให้กลุ่มผู้บริโภคของ Wel B นั้นไม่จำกัดแค่เพียงคนในประเทศเท่านั้น แต่ยังขยายตลาดไปยังทั่วโลก โดยเฉพาะกับพื้นที่ในแถบเอเชียอย่างจีน ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลยเซีย สิงคโปร์ หรือฝั่งตะวันตกอย่างรัสเซีย ฝรั่งเศส และเปรู”

“ส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ทำให้เราสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้มาจากตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (TTM) ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของเรา ทำให้ผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้เมื่อเห็นตรานี้บนสินค้าที่วางอยู่บนชั้นในซูเปอร์มาร์เก็ต สำหรับในอนาคตเราวางเป้าหมายว่าเราจะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมเพื่อสุขภาพสำหรับคนทุกวัย สร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ และสร้างบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน และนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปี 2020” นายสุทธิศักดิ์ กล่าวเสริม
นายคณานันต์ ตั้งสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอราวัณฟูด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท เอราวัณฟูด จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผัก ผลไม้ และกะทิบรรจุกระป๋องทั้งในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศมากว่า 60 ปี ด้วยนโยบายที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค บริษัทฯ ได้สร้างโรงงานอยู่ที่ภาคกลาง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งที่สามารถรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้สามารถคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตได้อย่างมีคุณภาพ และในด้านคมนาคมยังสะดวกในการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศ จากนโยบายการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า ช้างคู่ลูกโลก”

“บริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตอาหารที่ตระหนักถึงคุณภาพของสินค้าที่ผลิต เพื่อให้สามารถนำไปบริโภคได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น ทางบริษัทฯ จึงมีการพัฒนาการจัดการด้านระบบการผลิตของบริษัทฯ ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบัน สินค้าของบริษัทฯ ได้รับเครื่องหมายฮาลาลจากสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อเป็นการรับรองการบริโภคให้กับชาวมุสลิมทั่วโลก อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับสถานบันอาหาร (NATIONAL INSTITUTE OF THAILAND) พัฒนาระบบการวิเคราะห์อันตราย เพื่อหาจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม (HAZARD ANALYSIS CRITICAL CONTROL POINT) ซึ่งระบบนี้ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการอาหารระหว่างประเทศ (CODEX ALIMENTARIUS COMISSION) เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคสินค้าของบริษัทฯ อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ การการันตีสินค้าของเราให้เติบโตได้อย่างมั่นใจในสายตาของอาเซียนและตลาดโลกคือการได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark สินค้าที่ได้รับการติดตราสัญลักษณ์ TTM ถือได้ว่าเป็นสินค้าและบริการที่ได้รับการเลือกสรรแล้วว่าเป็นสินค้าชั้นเยี่ยมจากประเทศไทย ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ และเป็นองค์กรคุณภาพที่มีการดำเนินกิจกรรมที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และแรงงานที่เป็นธรรม” นายคณานันต์ กล่าวเพิ่มเติม

นายนรินทร์เดช ทวีแสงพานิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จำกัด กล่าวว่า “บริษัทเราเป็นโรงงานผู้ผลิตและประกอบสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในหมวดภาพและเสียง ซึ่งประกอบไปด้วย โทรทัศน์สี LED LCD และ DVD เป็นต้น รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย เราจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ อีกหลายประเทศ เราได้รับการยอมรับจากห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ร้านค้าทั่วไป และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ เช่นเดียวกับลูกค้าต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการรับรองมาตรฐานตามความข้อกำหนดของห้างโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ เช่น โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ไม่เพียงแต่จำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของเราเอง ด้วยคุณภาพการผลิตและการให้บริการที่ดีของเรา ไทย ฮาเบล อินดัสเตรียล ยังเป็นผู้ผลิตสินค้า (OEM) ให้กับห้างเหล่านี้”

“จากความเชื่อมั่นของคู่ค้าที่มีต่อไทย ฮาเบล อินดัสเตรียล ผลิตภัณฑ์ของเราถูกบรรจุเข้าในเว็บไซต์ศูนย์รวมผู้ประกอบการแบบธุรกิจถึงธุรกิจระดับแนวหน้า อาทิ Alibaba, Global Sources, Tradekey, HKTDC, Thaitrade, ExporterIndia เป็นต้น และเว็บไซต์ Marketplace ชื่อดังอย่าง Lazada และ Cdiscount เพื่อแสดงศักยภาพของไทยอย่างเต็มภาคภูมิ เราได้ทำการส่งออกสินค้าภายใต้ตรา Made in Thailand ไปยังประเทศและทวีปต่างๆ เหล่านี้ ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ภูฐาน เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ แอฟริกาใต้ จะเห็นได้ว่าสินค้าของเราส่งออกไปยังหลากหลายประเทศ ความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของสินค้ามีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งการที่บริษัทได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark จากกรมฯ เห็นประโยชน์อย่างชัดเจนเลยว่า มีส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าของเรานั้นเกิดความเชื่อถือในสินค้าเรามากยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีทั้งในด้านสินค้าและบริการของบริษัทได้เป็นอย่างดี ส่งผลต่อจำนวนและรายได้ด้านการส่งออกของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและเป็นรูปธรรม” นายนรินทร์เดช กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการกำหนดประเภทของผู้ได้รับตราสัญลักษณ์ไว้ 6 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก กลุ่มอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น สินค้าเครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สปา นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมด้านบริการ ได้แก่ ธุรกิจบริการรักษาพยาบาล ธุรกิจบริการส่งเสริมสุขภาพ (สปา) และธุรกิจศึกษานานาชาติ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการสามารถลงทะเบียนสมัครเพื่อขอรับตราสัญลักษณ์นี้ได้ผ่านเว็บไซต์ www.thailandtrustmark.com สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1169

ร่วมแสดงความคิดเห็น