สปสช. แจ้ง!! ประชาชนบัตรทองเดินทางสงกรานต์ เจ็บฉุกเฉินวิกฤต เข้าได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ ไม่ถึงวิกฤติ เข้า รพ.รัฐไว้ก่อน

unnamed

ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช.แจ้งประชาชานสิทธิบัตรทอง เดินทางช่วงเทศกาลหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ หากประสบอุติเหตุฉุกเฉิน หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติ หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารักษาได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ”

นพ.ชูชัย ศรชำนิ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) เปิดเผยว่า เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว ในปีนี้เป็นวันหยุดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน 2559 จึงเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งทำงานอยู่ต่างถิ่นจะได้เดินทางกลับบ้านหรือไปเยี่ยมญาติ รวมทั้งมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เลือกเดินทางการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ในช่วงเทศกาลนี้ สำหรับประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทองนั้น หากในระหว่างที่เดินทางไปต่างจังหวัดและความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล จะแบ่งเป็น 2 กรณีคือ กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติที่หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุด ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ”และให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายจาก สปสช.ตามอัตราที่กำหนด แต่ไม่ใช่ว่าจะมุ่งเจาะจงไปเข้าสถานพยาบาลเอกชน ขณะที่มีสถานพยาบาลรัฐอยู่ใกล้ หากเป็นแบบนี้ก็ไม่เข้าเกณฑ์การใช้สิทธิ ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าเบื้องต้นให้เข้ารักษาที่สถานพยาบาลรัฐไว้ก่อน และกรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติ หรือผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่น แล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เช่น ความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก ท้องเสียรุนแรง ซึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยที่ยังไม่ถึงขั้นฉุกเฉินถึงแก่ชีวิต กรณีนี้เป็นไปตามข้อบังคับ สปสช.ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุข กรณีที่มีเหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ฉบับที่2) พ.ศ.2558 ซึ่งระบุว่า ผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง หากมีเหตุสมควร หรือกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลอื่นได้ ซึ่งสถานพยาบาลอื่นนั้น หมายถึงสถานพยาบาลที่ไม่ได้ลงทะเบียนประจำไว้ และสถานพยาบาลที่ไม่ได้เข้าร่วมให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 7 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 และเช่นเดียวกันคือแนะนำให้เข้าสถานพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้ที่สุดไว้ก่อน ไม่ใช่มุ่งเจาะจงเข้าสถานพยาบาลเอกชนเท่านั้น เนื่องจากมีอัตราการเบิกจ่ายตามระเบียบที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ หากมีข้องสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วน สปสช.โทร.1330 หรือ สายด่วน 1669 ได้ทั่วประเทศ http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=160411140902

ร่วมแสดงความคิดเห็น