วันที่สองของการจัดประเพณีสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคึกคัก

วันที่ 14 เม.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ซึ่งถือเป็นวันที่สองของการจัดเทศกาลยังคงคึกคักและสนุกสนาน โดยช่วงเช้าวันนี้ ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวที่นับถือศาสนาพุทธ ต่างพร้อมใจกันเดินทางไปตามวัดต่างๆ เพื่อทำบุญและปักตุงบนกองทราย ตามความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวล้านนาเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเอง พร้อมทั้งได้จัดซื้อจัดหาไม้ง่ามขนาดยาว เพื่อนำไปค้ำต้นโพธิ์ภายในวัด มีความหมายถึงการค้ำชูพระพุทธศาสนา โดยบรรยากาศที่วัดเจ็ดลิน ถนนพระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดหนึ่งที่ผู้คนนิยมเดินทางไปปักตุงกัน ที่วัดนี้มีการนำทรายมาก่อจัดทำเป็นเจดีย์ทรายสุดส้าว ถือเป็นเจดีย์ทรายที่สูงที่สุดในโลก

ทำบุญสงรน้ำพระ
                                                       ทำบุญสงรน้ำพระ

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายประชาชนจำนวนมากก็ได้มีการจัดพิธีขนทรายเข้าวัดไปตามวัดต่าง ๆ บนถนนท่าแพตามประเพณี ซึ่งเชื่อว่าวันที่ 14 เมษายน เป็นวันครอบครัว และทางเหนือจะถือเป็นวันเนา ที่ห้ามด่าทอ หรือพูดจาไม่ดี โดยถือว่าจะทำให้ปากเน่าเหม็น วันเนา คือวันที่อยู่ถัดจากวันมหาสงกรานต์ และอยู่ก่อนวันเถลิงศก กำหนดตามปฏิทินจุลศักราช ปัจจุบันมักตกอยู่ในวันที่ 14 เมษายน หรือ 15 เมษายน โดยคำว่า “เนา” เป็นภาษาเขมรแปลว่า “อยู่” ในแง่ของโหราศาสตร์แล้ว วันนี้ควรจะเรียกว่า วันเนา เพราะเป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรอยู่ระหว่างราศีมีนและราศีเมษ อันเป็นวันที่ถัดจากวันสังขารล่อง แต่ในการออกเสียงแล้วทั่วไปมักเรียก “วันเน่า” ทำให้เกิดความคิดที่ห้ามการกระทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล โดยเฉพาะห้ามการด่าทอทะเลาะวิวาทกัน กล่าวกันว่าผู้ใดที่ด่าทอผู้อื่นในวันนี้แล้ว ปากของผู้นั้นจะเน่า และหากวิวาทกันในวันนี้ บุคคลผู้นั้นจะอัปมงคลไปตลอดปี ส่วนผู้ประสงค์จะปลูกเรือนด้วยไม้ไผ่ ก็ให้รีบตัดในวันนี้ เพราะเชื่อกันว่าไม้จะ “เน่า” และไม่มีมอดหรือปลวกมากินไม้ดังกล่าว วันเนานี้จะเป็นวันเตรียมงาน ชาวบ้านจะพากันไปซื้อของเพื่อกินและใช้ในวันพญาวัน เมื่อถึงตอนบ่ายจะมีการขนทรายเข้าวัด กองรวมกันทำเป็นกองๆ ซึ่งการขนทรายเข้าวัดนี้ถือว่าเป็นการนำทรายมาทดแทนส่วนที่ติดเท้าของตนออกจากวัด เสมือนกับได้ลักของจากวัด วันเนานี้อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันดา เพราะเป็นวันที่ ดา หรือจัดเตรียม สิ่งของต่างๆ จะใช้ทำบุญนั่นเอง

ปักตุง
                                                               ปักตุง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครเชียงใหม่ก็ได้มีการจัดพิธี แห่ไม้ค้ำสะหลี หรือไม้ค้ำโพธิ์ โดยเริ่มขบวนตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานเหล็กผ่านสะพานนวรัฐ ไปยังถนนท่าแพมีขบวนทั้งหมด 5 ขบวน ประกอบด้วยเทศบาลนครเชียงใหม่และแขวงทั้ง 4 แขวงเพื่อจะนำไปค้ำยันต้นโพธิ์ที่วัดต่างๆ 5 วัดบนถนนท่าแพอันเป็นสัญลักษณ์หมายถึงการค้ำจุนบวรพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป เช่นเดียวกับตามวัดต่างๆ ที่คนในชุมชนได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ซึ่งเป็นประเพณีที่มีภาคเหนือของประเทศไทย ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ตามความเชื่อของชาวพุทธที่ว่า ต้นไม้ใหญ่มักมีเทวดาอารักษ์สิงสถิตอยู่ โดยเฉพาะต้นโพธิ์ ซึ่งนอกจากจะ ปลูกไว้ในวัดแล้ว ยังเป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ ที่พระพุทธเจ้าได้ประทับ เมื่อตรัสรู้อีกด้วยต้นต้นโพธิ์เมื่อเจริญเติบโตจะมีกิ่งก้านสาขาทอดยาว บางกิ่งโน้มเอียงจนเกรงว่าจะหักโค่นยามลมพัดแรง จึงมีคนนำไม้ง่ามมาค้ำยันกิ่งไว้ ไม้ง่ามนั้นเรียกว่า “ไม้ค้ำโพธิ์” หรือ “ไม้ค้ำสะหลี” ซึ่งนอกจากจะเป็นการค้ำยันกิ่งไม่ให้ล้มแล้ว ยังมีความหมายไปถึงการค้ำชูพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวสืบต่อไป
อีกทั้งเชื่อกันว่ากุศลในการถวายไม้ค้ำโพธิ์จะช่วยคุ้มครองดวงชะตาให้เจริญขึ้น ไม่ตกต่ำ มีคนช่วยเหลือค้ำชูไปตลอดความเชื่อดังกล่าวเป็นที่ศรัทธาเชื่อถือโดยทั่วไปในกลุ่มชาวล้านนาทางภาคเหนือของไทย วัดต่างๆ ในภาคเหนือหากมีต้นโพธิ์ใหญ่ก็มักจะมีผู้นำไม้ค้ำสะหลีไปค้ำยันไว้ และในภาคกลางหรือในกรุงเทพฯ ก็ยังพบเห็นภาพความเชื่อดังกล่าวด้วยเช่นกัน และในอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ก็ถือเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่ามีความเชื่อและศรัทธาในการถวายไม้ค้ำสะหลี โดยมีการจัดงานประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ที่อำเภอจอมทองมายาวนานถึง 200 กว่าปีแล้ว

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าห้างเมญ่า
                                               บรรยากาศบริเวณด้านหน้าห้างเมญ่า

สำหรับบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคงคึกคักโดยในวันนี้ยังคงมีประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมการเล่นสาดน้ำกันอย่างเนืองแน่นตามจุดต่างๆ ซึ่งที่บริเวณข่วงประตูท่าแพที่เป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวแห่เข้ามาเล่น้ำนั้นยังคงคึกคัก และมีคนเล่นน้ำกันอย่างเนืองแน่นพร้อมกับเปิดเพลงเต้นกันกลางถนนอย่างสนุกสนาน ขณะที่จุดต่างๆ รอบคูเมืองด้านในและคูเมืองด้านนอกยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนทำให้พื้นที่การจราจรรอบคูเมืองมีการสัญจรไปมาของรถอย่างยากลำบาก

ขณะเดียวกันประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันคนก็ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่บริเวณหน้ากาดสวนแก้ว และด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเมญ่า ซึ่งมีการจัดกิจกรรมและแสดงคอนเสริตจากศิลปินดังและเล่นน้ำกันอย่างแน่นขนัดตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึงช่วงเย็น เรียกได้ว่าสงกรานต์ของเชียงใหม่ในปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนทุกปี อย่างไรก็ตามจากการรายงานความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ยังคงพบการละเมิดผิดกฎหมายอยู่บางส่วนในเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

บรรยากาศบริเวณอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว
                                           บรรยากาศบริเวณอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว

ขณะเดียวกันจากการสำรวจบรรยากาศรอบๆ คูเมืองเชียงใหม่พบว่า ภายหลังจากเสร็จสินกิจกรรมในช่วงเย็นที่ข่วงประตูท่าแพประชาชนและนักท่องเที่ยวก็ได้เดินทางแยกย้ายกันไปยังเวทีคอนเสริตหรือตามร้านอาหารต่างๆรอบๆ คูเมือง ซึ่งบางร้านได้มีการเปิดเพลงอึกทึกเพื่อเรียกลูกค้า อย่างไรก็ตามจากการสังเกตุการณ์ของผู้สื่อข่าวยังพบว่า การรณรงค์ในเรื่องของการห้ามดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณรอบคูเมืองยังมีประชาชนให้ความร่วมมือซึ่งในวันนี้ยังไม่พบผู้กระทำผิดกฎข้อบังคับในพื้นที่บริเวณรอบคูเมืองแต่อย่างใด รวมไปถึงการสอบถามเหล่าบรรดาประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมงานสงกรานต์ยังทราบว่าปริมาณการดื่มเครื่อดื่มแอลกอฮอล์ และการทะเลาะวิวาทจากผู้ที่เมาสุราในช่วงกลางวันนั้นน้อยลงแต่ว่าตอนช่วงกลางคืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอลล์อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากผู้เมาสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะในตัวเมืองเชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น