พ.ร.บ.ประชามติ

กระบวนการประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญกำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง กกต.ประกาศลงประชามติ วันที่ 7 สิงหาคม 2559 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะกำหนดกติกาการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีข้อน่าสนใจเช่น การกำหนดโทษหนักถึง 10 ปี สำหรับการโพสต์ที่ผิดข้อเท็จจริงหรือปลุกระดม ก่อนการทำประชามติ 7 วัน ห้ามมีการเปิดเผยผลโพลที่เกี่ยวกับการออกเสียง กำหนดอายุผู้มีสิทธิออกเสียงไว้ที่ 18 ปี ส่วนการแสดงความคิดเห็นและรณรงค์สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด

ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีประเด็นสำคัญ เช่น การกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิออกเสียง หลักเกณฑ์การลงคะแนน ฐานความผิด และบทลงโทษในการออกเสียงประชามติ ทั้งนี้ ยังมีกฎกติกาบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจนซึ่งจะถูกกำหนดโดย กกต.อีกครั้ง เมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. สำหรับรายละเอียดประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้

ใช้สิทธินอกพื้นที่ หรือย้ายที่อยู่ไม่ถึง 90 วัน ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า 30 วัน โดยการออกเสียงประชามติครั้งนี้ไม่มีจัดให้มีการออกเสียงล่วงหน้า เพราะการออกเสียงประชามติจะทำวันเดียวพร้อมกันทั่วประเทศ ดังนั้น ผู้ที่ไม่สะดวกในการกลับภูมิลำเนาเพื่อออกเสียง และผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเวลาน้อยกว่า 90 วัน นับแต่วันออกเสียง หากต้องการใช้สิทธิออกเสียง ให้ยื่นคำขอลงทะเบียนก่อนวันออกเสียงอย่างน้อย 30 วัน โดยจะหมดสิทธิลงคะแนนในหน่วยออกเสียงเดิมที่ตนมีชื่ออยู่

หากไม่ “กากบาท” นับเป็นบัตรเสีย ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้กำหนดลักษณะของบัตรเสียไว้หลายแบบ ซึ่งอาจสรุปอย่างรวบรัดว่า “บัตรที่ทำเครื่องหมายอื่นนอกจากเครื่องหมายกากบาท” คือบัตรเสีย และสามารถค้านผลประชามติได้ ภายใน 24 ชั่วโมง

ประชาชนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงใด หากเห็นว่าการออกเสียงในหน่วยออกเสียงนั้นเป็นไปโดยไม่สุจริต มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านพร้อมหลักฐานต่อ กกต. ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่การลงคะแนนออกเสียงสิ้นสุดลง

โพสต์บิดเบือน-ปลุกระดม ติดคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับสองแสน มาตรา 62 ที่สรุปได้ว่า “ผู้ใดดำเนินการเผยแพร่ ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสื่อพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

และห้ามเปิดผลโพลก่อนวันลงประชามติ 7 วันมาตรา 64 ผู้ใดเผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการออกเสียงในระหว่างเวลาเจ็ดวันก่อนวันออกเสียง จนถึงเวลาสิ้นสุดการออกเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน ปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อกำหนดการทำประชามติ ซึ่งกฎหมายจะค่อนกระชับ วันที่ 7 สิงหาคม 2559 เตรียมตัวลงประชามติตัดสินประเทศกันนะครับ
ชัย ราชเชียงแสน

ร่วมแสดงความคิดเห็น