อย.แนะการใช้“ครีมกันแดด” อย่างถูกวิธีป้องกันภัยแสงแดด

08
อย.แนะวิธีการเลือกครีมกันแดดอย่างถูกตอง ป้องกันภัยร้ายที่เกิดจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งผิวหนังก่อนซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดมาใช้ควรอ่านฉลากเลือกให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้และปฏิบัติตามคําแนะนําบนฉลากอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และในฐานะโฆษก อย.เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ประเทศไทยอยู่ในโซนเขตร้อนมีแสงแดดจัดเกือบตลอดทั้งปีจึงยากที่จะหลบเลี่ยงแสงแดดได้  ความจริงแสงแดดมีทั้งคุณและโทษ การได้รับแสงแดดวันละ 10-15 นาทีเหมาะกับการสร้างวิตามินดีที่จําเป็นต่อกระดูก แต่หากได้รับแสงแดดมากเกินไปหรือได้รับในช่วงเวลาที่แดดจัด(10.00-16.00 น.) รังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวี) จะไปทําให้ผิวหนังคล้ําหรือเหี่ยวย่นก่อนวัย อาจทําให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงเป็นตัวช่วยสําคัญในการป้องกันภัยร้ายที่อาจเกิดจากแสงแดดสามารถลดปริมาณรังสียูวีที่จะมาถึงผิว ซึ่งสารป้องกันแดดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสารที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสง เช่น ซิงก์ออกไซด์ไตตาเนียมไดออกไซด์สารกลุ่มนี้จะเคลือบบนผิวไม้ดูดซึมเข้าผิวหนัง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสียูวีเช่น แอนทรานิเลต เบนโซฟ์โนน หรือซินนาเมต ทําให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังน้อยลงแต่อาจทําให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้มากกว่าสารกลุ่มแรก  ค่า SPF (Sun Protection Factor) จะเป็นตัวบ่งบอกให้ทราบว่าเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นแล้วจะช่วยป้องกันรังสียูวีบีจากแสงแดดได้นานแค่ไหนผิวจึงจะไหม้โดยขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงแดด

โดยทั่วไปสามารถใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 และเมื่ออยู่กลางแจ้งหรือขณะเล่นกีฬาอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 30 ซึ่งผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูง จะมีความเข้มข้นของสารป้องกันแสงแดดที่สูงตามไปด้วยอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้มากกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ํา จึงต้องระมัดระวังในการใช้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สําหรับค่า SPF สูงกว่า 50 (ในฉลากแสดงเป็น SPF 50+) ก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก SPF 30มากนัก แต่ราคาจะแตกต่างกันมาก ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ส่วนค่า PA(Protection grade of UVA) หรือ PFA (Protection factor for UV-A) นั้น เป็นการช่วยป้องกันรังสียูวีเอ  ที่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและโรคมะเร็งผิวหนัง โดยสามารถดูค่าบนฉลากที่จะแสดงระดับเป็นPA+ หรือ PA++ หรือ PA+++ ขึ้นกับระดับความสามารถจากน้อยไปหามากในการป้องกันรังสียูวีเอ

ทั้งนี้วิธีการป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่ดีที่สุด ควรอยู่ในที่ร่ม สวมเสื้อผ้าให้มิดชิดสวมหมวกปีกกว้าง รวมทั้งสวมแว่นกันแดดด้วย เพราะรังสียูวีนั้นนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังแล้วยังเป็นสาเหตุของโรคต่อกระจกได้ด้วย ดังนั้น ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดทุกครั้งควรเลือกให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้และปฏิบัติตามคําแนะนําบนฉลากอย่างเคร่งครัด และทาก่อนออกไปกลางแจ้งอย่างน้อย 15-30 นาทียกเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก กรณีเด็กอายุต่ํากว่า 6 เดือน ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด แต่ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดแทน ทั้งนี้หากใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดแล้วมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น

ให้หยุดใช้ทันทีแล้วล้างออกด้วยน้ําสะอาด หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีและให้นําผลิตภัณฑ์นั้นไปปรึกษาแพทย์ ด้วย รองเลขาธิการ อย. กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น