ยังเฝ้าระวังไฟป่า

13164420_1018737021554406_8491149869877188196_n

ทางนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นปีแรกที่ได้นำกลไกประชารัฐเข้ามาแก้ไขปัญหา ในช่วง 60 วันห้ามเผา ตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ ถึง 15 เมษายน 2559 ทำให้เห็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ผ่าน ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ทั้ง 25 อำเภอ จัดชุดลาดตระเวน ชุดดับไฟป่า ร่วมกับทีมงานของท้องถิ่น 210 แห่ง ทีมงานกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 204 ตำบล 2,066 หมู่บ้าน และอาสาสมัครดับไฟป่าประจำหมู่บ้าน เพื่อควบคุมพื้นที่ เฝ้าระวังไม่ให้มีการเผา ทำให้ช่วงเฝ้าระวัง 60 วัน

จังหวัดเชียงใหม่มีจุดความร้อนเพียง 996 จุด ลดลงจากปีที่แล้วถึง 47 เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่เห็นผลชัดเจนในเรื่องนี้ คือ การสร้างความตระหนัก และสร้างกลไกการทำงานร่วมกัน นำมาสู่การปรับปรุงแก้ไข ข้อบกพร่อง โดยคนเชียงใหม่ร่วมแก้ไขปัญหาของจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกัน

 มงคล สุกใส
มงคล สุกใส

ซึ่งบทเรียนที่ผ่านมา ปัญหาไฟป่าหมอกควันไม่ได้สร้างปัญหาเฉพาะในฤดูเฝ้าระวัง ช่วง 60 วันห้ามเผาเท่านั้น ไฟป่าที่เกิดขึ้น ยังทำให้ต้นไม้ที่กำลังงอกถูกเผาตาย หน้าดินถูกทำลาย ส่งผลต่อป่าต้นน้ำในภาคเหนือ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ขั้นตอน สร้างความยั่งยืน โดยพลิกฟื้นคืนสภาพป่า รณรงค์สร้างฝายตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7,200 ฝาย ทั่วเชียงใหม่ แต่การควบคุมการเผาก็ยังให้เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเฝ้าระวังดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการเผาป่าหรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 150,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท หากพบเห็นผู้กระทำผิดสามารถแจ้งเหตุแจ้งที่ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-112236, 099 3751110 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น