เปิดไฟเขียว แก้กฏบินเชื่อมแดนโสร่ง

b2 w=14h=8
ครม.อนุมัติแก้กม.เดินอากาศไทย-พม่า เปิดทางเพิ่มเที่ยวบินไม่จำกัด เสนอจุดบินเชื่อมพุกาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ได้รายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงผลการเจรจาการบินระหว่างไทย-พม่า ซึ่งไทยและพม่า ได้ตกลงเจรจาเพื่อปรับปรุงกฎหมายการเดินอากาศที่ใช้ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2512 และเจรจาแล้วเสร็จเมื่อปี 2557 แต่เพิ่งเข้า ครม.เพราะช่วงดังกล่าวเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเรื่องหลักจะเป็นการจัดทำร่างกฎหมายเดินอากาศร่วมกันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิความจุ ความถี่ และสายการบินที่ให้บริการระหว่างกัน โดยยังคงสิทธิต่างๆ ไว้เหมือนเดิม แต่ความตกลงทางด้านสายการบินต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการ บินก่อน

นายอาคมกล่าวว่า สำหรับการเช่าอากาศยาน เปิดให้ใช้บริการได้ แต่ต้องยื่นขอกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินก่อน โดยปัจจุบันไทยให้บริการไปยังพม่า 150 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนพม่าให้บริการมาไทย 28 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดย ครม.ให้ความสนใจตรงที่พม่าเป็นประเทศติดไทย สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยปัจจุบันผู้ที่เดินทางไปพม่า ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอเพิ่มจุดบินที่เมืองพุกาม ซึ่งสายการบินจะต้องเป็นผู้ไปขอหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของพม่าต่อไป

“กฎหมาย เดินอากาศดังกล่าวจะไม่จำกัดเที่ยวบินที่ให้บริการระหว่างกัน เพราะถือเป็นการส่งเสริมการเดินทางระหว่างกัน และศักยภาพไทยถือว่ามีมากกว่า อาจจะบินไปได้มากกว่าด้วย” นายอาคม กล่าว

นายอาคมกล่าวว่า ครม.ได้รับทราบความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างทางกลับบนทางหลวงหมายเลข 402 จังหวัดภูเก็ต ตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ที่อนุมัติไว้ตั้งแต่ปี 2558 ภายใต้วงเงินที่กรมทางหลวงได้รับอนุมัติ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันโครงการยังไม่ได้ก่อสร้าง และได้ทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว โดยทุกคนเห็นว่าจำเป็น เพื่อความปลอดภัย สะดวก แก้ปัญหารถติด

นายอาคมกล่าวว่า ครม.ยังได้อนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินการโครงการเพิ่มเติม ภายใต้กรอบโครงการเงินกู้เพื่อการบริหารจัดการน้ำ และขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน ปี 2558 ซึ่งเป็นโครงการในแผนกระตุ้นระยะที่ 2 โดย ครม.เห็นชอบใน 53 รายการ วงเงิน 243.77 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่เหลือจากที่ได้อนุมัติ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งใน 53 รายการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงทาง บำรุงรักษาทางหลวง ยืดอายุใช้งาน แก้ปัญหาผิวทาง แก้ปัญหาเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ เป็นต้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น