สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ยัน “ไม่พบการรั่วไหล” พร้อมแจงเป็นสารซีเซียม 137 ไม่ใช่สารโคบอตล์ 60

1111111111111

หลังจากเมื่อต้นปี 2543 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่สร้างความน่าตกใจ และตื่นตระหนก ให้แก่ประชาชนทั่วไป นั่นคือการรั่วไหลของ รังสีโคบอล 60 ที่ จังหวัดสมุทรปราการ และ วันนี้ เกิดขึ้นอีกแล้ว ที่ กรุงเทพมหานครฯ เมื่อเวลา 15.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ในซอย พหลโยธิน 24 แยก 2-1ข. จตุจักร เกิดการรั่วไหล ของสารโคบอล 60 จากโกดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเวลานี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ พร้อมเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ในระยะ 200 เมตร พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เข้าพื้นที่แล้ว

ล่าสุด คืบหน้า เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ใช้เครื่องวัดค่ากัมมันภาพรังสีแล้ว “ไม่พบการรั่วไหล” พร้อมแจงเป็นสารซีเซียม 137 ไม่ใช่สารโคบอตล์ 60

เรามาทำความรู้จักกับ รังสีโคบอลท์-60 ว่าคืออะไร ?
ความจริงแล้วรังสีที่แผ่ออกมาจากสารกัมมันตรังสี (สารรังสีหรือแร่) โคบอลท์-60 คือ รังสีแกมม่าและรังสีเบต้า และรังสีที่ใช้เป็นตัวรักษาเป็นอันตราย คือ รังสีแกมมา เพราะมีแรงทะลุทลวงมากกว่ารังสีเบต้ามาก คำว่า “รังสี” (Radiation) บางคนอาจจะไปเชื่อมโยงกับคำว่า “ปรมาณู” (Atomic energy) ทำให้น่ากลัวยิ่งขึ้นเพราะจะนึกถึงระเบิดปรมาณูที่อเมริกาทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิมา และเมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่นในตอนปลายสงครามโลก ครั้งที่ 2 ทำให้ชาวญี่ปุ่นล้มตายลงทันที และเสียชีวิตในเวลาอีกหลายๆ ปีต่อมาเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนพังทลายมากมาย ซึ่งนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้เพราะระเบิดปรมาณูมีอานุภาพร้ายแรงกว่าเหนือคณานับ จากแรงระเบิดและจากปริมาณรังสี

โคบอลท์-60 เป็นสารรังสีที่ใช้ในทางการแพทย์ในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2501 ที่ร.พ.จุฬา-ลงกรณ์ และ พ.ศ. 2502 ที่ ร.พ.ศิริราช และยังใช้กันอีกหลายๆ โรงพยาบาลทั่วประเทศไทย จนถึงปัจจุบันนี้ โดยใช้เป็นต้นกำเนิดรังสีแกมม่าสำหรับรักษาโรคมะเร็ง โดยอาศัยคุณสมบัติของรังสีที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็ง ทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคมะเร็งได้ และปัจจุบันนี้ก็มีผู้ป่วยมะเร็งชาวไทยจำนวนมากมายที่รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเกิน 10-30 ปี จากการฉายรังสีโคบอลท์-60

นอกจากโคบอลท์-60 แล้ว ยังมีสารรังสีอื่นๆ ที่นำมาใช้ในทางการแพทย์ เช่น แร่เรเดียม ซึ่งเป็นสารรังสีที่เกิดในธรรมชาติ มีใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2481 หรือสารรังสีที่มนุษย์สร้างขึ้นมาโดยการเปลี่ยนโครงสร้างของอะตอมของสารธรรมดาให้กลายเป็นสารรังสีในเตาปฏิกรณ์ปรมาณู เช่น แร่ทองคำ กัมมันตรังสี-197 ซึ่งมีใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2506, แร่ซีเซียม-137 ซึ่งมีใช้ใน ประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2524, แร่อิริเดียม-192 ซึ่งมีใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2535, รวมทั้ง แร่ โคบอลท์-60 ซึ่งมีใช้ในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2501 สารรังสีหรือแร่ที่กล่าวมาแล้วจะอยู่ในสภาพของแข็ง และให้รังสีแกมม่าสำหรับรักษาโรคมะเร็ง นอกจากนั้นยังมีสารรังสีที่อยู่ในสภาพที่เป็นของเหลว เช่น สารไอโดดีน-131 ซึ่งมีใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2503 สำหรับวินิจฉัยและรักษาโรคของต่อมธัยรอยด์ เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ร่วมแสดงความคิดเห็น