พิษภัยแล้งลุกลามกระทบตลาดขายผัก ปรับราคาพุ่งสูง

วันที่ 17 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ยาวนานต่อเนื่องที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งสภาพอากาศที่ยังคงร้อนจัด แม้ว่าจะย่างเข้าสู่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งปกติจะเข้าสู่ฤดูฝนและมีฝนตกลงมาแล้วนั้น ส่งผลให้ผลผลิตพืชผักหลายชนิดได้รับผลกระทบและมีการปรับราคาสูงขึ้นกว่าปกติมาก โดยจากการสำรวจที่ตลาดเมืองใหม่ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผักผลไม้ใหญ่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าผักหลายชนิดมีราคาแพงกว่าหลายเท่าตัว

ราคาผักพุ่ง (1)ทั้งนี้บรรดาพ่อค้า แม่ค้าขายผักภายในตลาด กล่าวถึงกรณีที่ราคาผักที่ปรับตัวขึ้นสูงว่า มีสาเหตุหลักมาจากช่วงนี้เกษตรกรผู้เพาะปลูกผักหลายชนิดต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งที่ลุกลามหนัก ประกอบกับมีพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำบางพื้นที่ฝนตกหนัก และบางพื้นที่ไม่มีฝน ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ประกอบกับความต้องการในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ผักแต่ละชนิดราคาจึงต้องปรับตัวสูง โดยช่วงนี้ราคาขายผักปรับสูงขึ้นกว่าปกติมาก เช่น กะหล่ำปลี ราคาขายส่งถุงละ 10 กิโลกรัม อยู่ที่ 120 บาท จากปกติ 20-30 บาท , ผักกาดขาว ราคาขายส่งถุงละ 10 กิโลกรัม อยู่ที่ 160-200 บาท จากปกติ 60 บาท , พริกสด ราคาขายกิโลกรัมละ 70 บาท จากปกติ 20-30 บาท , มะเขือเทศ ราขายกิโลกรัมละ 20 บาท จากปกติ 10-15 บาท หรือ ต้นหอมผักชี ราคาขายกิโลกรัมละ 50-70 บาท จากปกติ 20 บาท เป็นต้น

ราคาผักพุ่ง (3)สำหรับสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการปรับราคาขายผักต่างๆ สูงขึ้นนั้น เป็นเพราะการผลิตได้ผลไม่ดีนัก ทั้งจากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้ค่อนข้างขาดแคลนน้ำใช้ในการเพาะปลูก และสภาพอากาศที่ร้อนจัดกว่าทุกปีทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามแม้ว่าผักหลายชนิดจะมีราคาสูงขึ้น แต่ในช่วงเดียวกันนี้ก็มีผักบางชนิดที่ราคาลดลงด้วย เช่น ถั่วฝักยาว ที่ช่วงก่อนราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 150 บาท ขณะนี้ราคาลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 30-40 บาทแล้ว

ราคาผักพุ่ง (2)ขณะที่ทางประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของภายในตลาดรายหนึ่ง ระบุว่า ในสภาพสถานการณ์เช่นนี้ ในฐานะผู้บริโภคก็ต้องเข้าใจและปรับตัวตามสภาพ เพราะทราบถึงสาเหตุที่ทางบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากทุกรายต่างได้รับผลกระทบเหมือนๆ กัน โดยภาพรวมราคาของผักทุกร้านก็จะอยู่ในราคาที่เท่าเทียมกัน และเป็นเช่นนี้ทุกตลาด เนื่องจากต้องรับมาจากชาวไร่ ชาวสวนที่นำของมาส่งอีกทอด ทำให้ราคาสินค้าส่วนใหญ่ปรับสูงอย่างที่เห็น ทั้งค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน อย่างไรก็ตามจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นก็ต้องปรับลดปริมาณของใช้บางอย่างให้น้อยลงเพื่อประหยัดรายจ่ายมากที่สุดในช่วงเศรษฐกิจที่เจออยู่ในปัจจุบันนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น