กรมการขนส่งทางบกฯ สั่งยุติการให้บริการ!! แอพพลิเคชั่นเรียกรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย Grab Bike และ Uber MOTO

 

กรมการขนส่งทางบก

กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายเทศกิจเขตปทุมวัน สั่งยุติการให้บริการ!!! แอพพลิเคชั่นเรียกรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย Grab Bike และ Uber MOTO พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กวดขันทั่วกรุงเทพฯ พบความผิดจับปรับสูงสุด ผิดซ้ำซากพักใช้ – เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ!!!

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2559) เวลา 13.00 น. นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายเทศกิจเขตปทุมวัน ได้เชิญบริษัทผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นสำหรับเรียกรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล Grab Bike และ Uber MOTO เข้าหารือเพื่อชี้แจงกฎระเบียบ และประเด็นปัญหาที่ขัดต่อกฎหมายที่กรมการขนส่งทางบกมีหน้าที่กำกับดูแลอีกครั้ง หลังจากเคยมีการพูดคุยกันไปก่อนหน้านี้ และได้แจ้งให้ทั้งสองบริษัทยุติ การให้บริการที่ผิดกฎหมายทันที แต่ที่ผ่านมายังพบพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย โดยทั้ง 2 บริษัทได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่าน สื่อสังคมออนไลน์และเปิดรับสมัครผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาเป็นสมาชิกเพื่อให้บริการรับจ้างอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีพฤติกรรมแก่งแย่งผู้โดยสารจากวินจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้อง การเข้ามาของ Uber Moto และ Grab Bike ได้สร้างความไม่เสมอภาคและความไม่เป็นธรรมให้กับรถจักรยานยนต์สาธารณะที่เข้าสู่ระบบการจัดระเบียบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก่อให้เกิดความแตกแยกและมีผู้ได้รับผลกระทบซึ่งสร้างความไม่สงบในสังคม และอาจเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บผลประโยชน์จากการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะ ดังนั้น ขอให้ทั้งสองบริษัทยุติการให้บริการโดยทันที หากยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง จะดำเนินการตามระเบียบของ คสช. ต่อไป

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกขอย้ำว่ารถจักรยานยนต์ที่สามารถนำมารับส่งผู้โดยสารได้ต้องจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะเท่านั้น และผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะใช้เสื้อวินรูปแบบใหม่ที่แสดงบัตรประจำตัวและหมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องตรงกันตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเท่านั้น และเพื่อป้องกันการฝ่าฝืนกฎหมายกรมการขนส่งทางบกจะจัดเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างผิดกฎหมายผ่านแอพพลิเคชั่นอย่างต่อเนื่อง โดยหากตรวจสอบพบการกระทำความผิดจะเปรียบเทียบปรับสูงสุดทุกรายตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ได้แก่ ความผิดตามมาตรา 23/1 ฐานนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาใช้รับ-ส่งผู้โดยสาร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท, มาตรา 5(15) แต่งกายไม่ถูกต้องตามประกาศกรมการขนส่งทางบก ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และมาตรา 42 ไม่แสดงใบอนุญาตขับรถสาธารณะปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาพบการฝ่าฝืนและสามารถจับกุมได้แล้วทั้งสิ้น 66 ราย แบ่งเป็น Grab Bike 37 ราย Uber Moto 29 ราย บันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ หากพบความผิดซ้ำจะพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกเชิญชวนประชาชนเลือกใช้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการและได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย  มีความเป็นธรรมด้านค่าโดยสาร โดยต้องมีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนด โดยรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมายจะสังเกตได้จากแผ่นป้ายทะเบียนรถซึ่งต้องเป็นสีเหลือง และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมเสื้อวินรูปแบบใหม่ มีบัตรติดเสื้อ โดยข้อมูลตัวคน บัตร และรถ ต้องถูกต้องตรงกัน หากพบเห็นการนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้าง การเรียกเก็บค่าโดยสารเกิน หรือพบเห็นการกระทำความผิดอื่นๆ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น