ห่วงลิ้นจี่ไม่ตรงสเปค สาเหตุจากปัญหาภัยแล้ง ปลาย พ.ค. ทยอยวางตลาด

IMG_2239.123

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ขานรับข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ตลาดลิ้นจี่ ในพื้นที่ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผลผลิตความเสียหายจากผลผลิตลิ้นจี่เสียหายลดลงเมื่อเที่ยบกับปีที่แล้ว แต่ยังประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำเนื่องจากภัยแล้ง อาจทำให้คุณภาพลิ้นจี่ลดลง ไม่ตรงสเปค รออานิสงส์ฝนเท ก่อนทยอยออกสู่ตลาด ปลายเดือนนี้

เมื่อ วันที่ 16 พ.ค.59 นางนิยดา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีข้อสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ตลาดผลไม้ และตลาดพืชผลทางการเกษตร ในช่วงนี้ เนื่องจากผลผลิตต่าง ๆ เริ่มออกสู่ตลาด โดยให้ทุกจังหวัดนำ “จันทบุรีโมเดล” มาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการติดตามสถานการณ์ตลาดลิ้นจี่ในพื้นที่ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดรับซื้อ (เจ๊บานเย็น) ได้เริ่มทำการรับซื้อลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยในราคา กิโลกรัมละ 50 บาท และ 40 บาท ตามลำดับ ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.59 เป็นต้นมา สำหรับลินจี่คละเกรดจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 30 -35 บาท มีปริมาณการรับซื้อประมาณ 4.5 ตันต่อวัน

โดยจากการติดตามสถานการณ์ คาดว่า ปริมาณผลผลิตในปีนี้ จะออกสู่ตลาดน้อยกว่าปีที่แล้ว ประมาณร้อยละ 70 เนื่องจากภาวะภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ส่งผลต่อการติดดอกออกผลของลิ้นจี่ ซึ่งผลผลิตลิ้นจี่ที่ออกสู่ตลาดในขณะนี้ เป็นผลผลิตในพื้นที่ อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง และอำเภอไชยปราการ ทางด้านคุณภาพของลิ้นจี่ในปีนี้ คุณภาพไม่ดีนักเมื่อเทียบกับคุณภาพของลิ้นจี่ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบให้ลิ้นจี่มีขนาดผลที่เล็ก สีผิวไม่แดง มีลักษณะไหม้ แต่ยังคงรสชาติดี ราคาจำหน่ายปลีกลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยคละเกรดในพื้นที่อำเภอไชยปราการ จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 50 – 60 บาท

ขณะที่ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องผลผลิตลิ้นจี่เสียหาย ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวนั้น ระบุว่า ขณะนี้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเป็นลิ้นจี่พันธุ์เบา (ฮงฮวย) โดย 1.ความเสียหายจากปริมาณผลผลิตลดลง เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 2. ผลผลิตที่ออกมาแล้ว มีขนาดผลเล็กลง (เกรด AA มีสัดส่วนลดลง ผปก.จึงประเมินผลผลิตลดลง) 3. ผลผลิตที่ติดดอกออกผลแล้ว บางพื้นที่มีความเสียหายจาก สีผิวไม่สวย และ แห้งดำ ปริแตก 4. ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ปริมาณลดลง เนื่องจากเนื้อไม่หนาเท่าที่ควรจะเป็น สาเหตุเพราะขาดน้ำ ทำให้ น้ำหนักที่ได้รับลดลง แต่อย่างไรก็ดีตามหากมีฝนตกลงช่วงนี้ ลิ่นจี่พันธุ์หนัก (จักรพรรดิ์) จะยังทันได้รับประโยชน์ เพราะผลผลิตจะเริ่มเก็บเกี่ยวช่วง ปลายพฤษภาคม ถึง มิถุนายน ดังนั้น ความเสียหายอาจมิใช่ความเสียหายโดยสิ้นเชิง เพราะ ผลผลิตที่เสียหายนั้น ยังสามารถจำหน่ายได้ เพียงแต่ราคาอาจไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับปริมาณที่ลดลงจากหลายปัจจัย ทั้งนี้ โดยมีสัดส่วนผลผลิตลิ้นจี่ จังหวัดเชียงใหม่ พันธ์ฮงฮวย คิดเป็น 34% และ ลิ้นจี่พันธุ์จักพรรดิ์ คิดเป็น 61% ของผลผลิตทั้งหมด

ร่วมแสดงความคิดเห็น