นานาสาระ ข้อแตกต่างระหว่างโฟม กับ เจลล้างหน้า

โฟมกับเจลล้างหน้าแตกต่างกันอย่างไร?เราอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า โฟมล้างหน้า และเจลล้างหน้ากันเป็นอย่างดี แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร
ทั้งโฟมและเจลมีสารทำให้เกิดฟอง แต่ฟองที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างกัน เพราะ โฟม ใช้สารที่ทำให้เกิดฟองประจุลบในการผลิต ซึ่งฟองที่เกิดขึ้นเป็นฟองที่เสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองสูง และบางชนิดทำให้เกิดสิว ในขณะที่เจลใช้สารที่ทำให้เกิดฟองชนิดอ่อนโยน และนิ่มนวลต่อผิวมากไม่ทำให้เกิดสิวและไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือระคายเคือง
เจล ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือเจลแท้ และเจลเทียม
– เจลแท้ จะทิ้งตัวและมีรูปร่างมีราคาค่อนข้างแพง จึงถูกนำมาใช้ในการผลิตเจลล้างหน้า
– เจลเทียม นั้นทำมาจากเกลือ Sodium Chloride หรือเกลือที่เราบริโภคกันในครัวเรือน มีราคาถูก เมื่อนำมาผสมกับสารเกิดฟองประจุบวกลบ จะอยู่ในรูปของเจลอาบน้ำ (Shower Gel) ส่วนสารเกิดฟองประจุบวกนั้นไม่เหมาะสำหรับนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้า สาเหตุเพราะอันตราย
บางคนอาจจะถามว่าแล้วค่า ph ที่อยู่บนฉลากของผลิตภัณฑ์ล้างหน้า หรือตามที่โฆษณาสำคัญหรือไม่ บ่งบอกถึงอะไร ค่าต่างๆ นั้นแตกต่างกันตรงไหน และเท่าไรถึงจะเหมาะสม ค่า ph ของผิวของคนเรามีค่าอยู่ที่ประมาณ 4.5 จากความเป็นกรดของไขมัน แต่เรามักจะมีความเข้าใจว่า 5.5 ซึ่งเป้นการรับรู้และเข้าใจผิด คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า 5.5 เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางส่วนใหญ่จะพยายามปรับค่า phให้เท่ากับ 5.5 จนเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วทำไมผู้ผลิตจึงไม่ผลิตโฟมที่ค่า ph เท่ากับ 4.5 ซึ่งจะได้เท่ากับค่า phของผิว คำตอบก็คือ ผิวของคนเราจะทนความเป้นกรดไม่ได้ถ้าค่า ph ต่ำกว่า 5.5 ผิวจะเกิดการระคายเคืองอยาางแรง เพราะฉะนั้นเราควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้าง หน้าที่มีค่า ph ใกล้ความเป็นกลางมากที่สุดคือ 6-7 จึงจะไม่เกิดการระคายผิว ในขณะเดียวกันสบู่ก้อนหรือสบู่เหลวทั่วไปมักมีค่า ph เท่ากับ 8-10 ซึ่งเป็นด่างอย่างแรง ทำให้ผิวอันบอบบางทนไม่ได้เช่นกัน สบู่จึงไม่เหมาะสำหรับการนำมาล้างหน้า
นอกจากนี้แล้ว ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ดีควรมีส่วนผสมของ Triclosan ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และ Sodium PCA ซึ่งเป็นสารที่ดีที่สุดในการให้ความชุ่มชื้นต่อผิวโดยไม่ก่อให้เกิดการระคาย เคือง