ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ประชุมร่วมปศุสัตว์เขต 5 (มีคลิป)

https://www.youtube.com/watch?v=_vGRa6GWhls

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พ.ค. 59 นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาที่บริเวณสำนักงานปศุสัตว์เขต 5 เชิงดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบคุณภาพและติดตามเกี่ยวกับโครงการนมโรงเรียนของภาคเหนือ โดยมีตัวแทนจากสำนักงานปศุสัตว์  8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน  พร้อมเจ้าหน้าที่จาก หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก

ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติงานตามคำสั่งของ คสช. ที่ให้มีการดูแลคุณภาพของนม รวมทั้งความโปร่งใสของโครงการดังกล่าว โดยในวันนี้ทางด้าน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง และเพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพน้ำนมดิบ ที่จะมาใช้ในการผลิตนมตามโครงการผลิตนมโรงเรียน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในช่วงเปิดเทอม อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

S__8306714ในการประชุมครั้งนี้ นายธีระ อนันต์วรปัญญา ปศุสัตว์เขต 5 ได้ชี้แจงกับผู้ตรวจราชการ ในประเด็นการตรวจสอบนมโรงเรียน ว่าขณะนี้ในพื้นที่ภาคเหนือ มีโรงงานแปรรูปนมอยู่ทั้งหมด 4 แห่ง ที่จังหวัดเชียงราย 1 แห่ง และจังหวัดเชียงใหม่ อีก 3 แห่ง โดยมีอีกแห่งหนึ่งที่จังหวัดลำปางที่โดนปิดไปแล้วจากกรณีนมโรงเรียนบูด ที่ส่งไปในพื้นที่จังหวัดน่าน ทั้งนี้ในส่วนของนมโรงเรียนนั้น สำนักงานปศุสัตว์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใด เพราะไม่ได้เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพของนมทั้งหมด เป็นเพียงผู้ดูแลและให้คำแนะนำแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเท่านั้น ซึ่งภายหลังจากที่เกษตรได้น้ำนมดิบมาส่งให้กับฟาร์มแล้ว จะถูกนำส่งไปยังศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบและสหกรณ์ จากนั้นจะส่งให้โรงงานแปรรูปน้ำนมดิบเพื่อบรรจุกล่อง และส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการแจกจ่ายให้โรงเรียนต่างๆ ต่อไป โดยการตรวจสอบคุณภาพน้ำนมทั้งหมด ปศุสัตว์ไม่ได้เป็นผู้ตรวจสอบ และเป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะดำเนินการ

S__8306712ทาง นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ในวันนี้สืบเนื่องจากทางตนได้รับมอบหมายให้ดูเขตราชการที่ 15 และ 16 ซึ่งคลอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยที่มาในวันนี้ก็มีวัตถุประสงค์อยู่ 2 เรื่อง คือ การดำเนินการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเดินทางมาตรวจสอบติดตามสถานการณ์แล้วครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน และในวันนี้ที่เดินทางมาก็ยังคงมีเรื่องสืบเนื่องจากปัญหาภัยแล้งอยู่ ส่วนอีกเรื่องคือการติดตามการดำเนินการโครงการนมโรงเรียน ซึ่งจะเห็นว่าช่วงระยะที่เกิดภัยแล้งขึ้นมานั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยภายหลังการประชุมก็ได้มีการสั่งการให้ทางปศุสัตว์ ดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยเข้าไปส่งเสริมให้หันมาเลี้ยงสัตว์ อาทิ หมูดำ ไก่ประดูหางดำ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้จุนเจือครอบครัวในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งไม่สามารถปลูกพืชได้ โดยในพื้นที่ภาคเหนือได้เข้ามาส่งเสริมให้เลี้ยงสัตว์แทนการปลูกลิ้นจี่ และลำไยที่มีราคาตกต่ำและผลผลิตเสียหายจากภัยแล้ง

S__8306713ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่รับผิดชอบของทางสำนักงานปศุสัตว์เขต 5 ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้มีปริมาณโคนมทั้งสิ้น 67,297 ตัว ถือเป็นร้อยละ 13.20 ของประเทศ โดยสามารถผลิตน้ำนมดิบได้เพียงพอต่อความต้องการในการนำไปผลิตนม เพื่อนำไปแจกจ่ายในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน นอกจากนี้ยังพบว่าในพื้นที่ภาคเหนือมีโรงงานแปรรูปนมอยู่ทั้งหมด 4 แห่ง ที่จังหวัดเชียงราย 1 แห่ง และจังหวัดเชียงใหม่อีก 3 แห่ง โดยมีอีกแห่งหนึ่งที่จังหวัดลำปางที่โดนปิดไปแล้วจากกรณีนมโรงเรียนบูด ซึ่งในเบื้องต้น ได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศได้ดื่มนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สะอาด อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อย เข้มข้น ถูกปาก และยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยชื่นชอบในการดื่มนมต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น