เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พ.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว นำโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าทำการตรวจค้น กรณี ธุรกิจท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายตัวแทนอำพรางหรือนอมินีและหลอกลวงขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผลิตจากยางพาราด้อยคุณภาพ ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน ตามคำสั่งของคณะ คสช.
โดยในการลงตรวจครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจค้นพื้นที่ทั้งหมด 6 จุดหลักๆ ด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย จุดที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 233/11 ถ.มหิดล ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นรีสอร์ท เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาพัก โดยน่าเชื่อว่าเจ้าของโดยแท้จริงเป็นชาวต่างชาติ (จีน) เนื่องจากในขณะที่ไปทำการสืบสวนพบว่ามีชาวต่างชาติ (จีน) เป็นพนักงานหรือผู้ดูแล และในจุดที่ 2 ตั้งอยู่เลขที่ 80/1 ม.3 ถ.เชียงใหม่-สันกำแพง ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับเพชร (จิวเวอร์รี่) ซึ่งมักมีกรุ๊ป นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปชมและซื้อสินค้าจำนวนมาก บางครั้งอาจนำสินค้าที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานและนำมาจำหน่ายในราคาสูงกว่าปกติ และในจุดที่ 3 ตั้งอยู่เลขที่ 99/3 ม.1 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นบริษัทที่เปิดจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากยางพารา เช่น ที่นอน หมอน ให้กับนักท่องเที่ยว โดยส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเชื่อว่าสินค้าที่ผลิตจากยางพาราในประเทศไทยมีคุณภาพดี แต่แท้จริงแล้วสินค้านี้เป็นผลิตภัณฑ์จากยางพาราที่ด้อยคุณภาพ
นอกจากนี้ ยังได้เข้าทำการตรวจสอบจุดที่ 4 บริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 106/1 ม.3 ถ.เชียงใหม่ – สันกำแพง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นบริษัทที่เปิดจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากยาพาราเช่นกัน และในจุดที่ 5 ตั้งอยู่เลขที่ 106/3 ม.3 ถ.เชียงใหม่ – สันกำแพง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นบริษัทที่เปิดจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากหนังจระเข้ เช่น กระเป๋า เข็มขัด ให้กับนักท่องเที่ยวโดยมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาซื้อสินค้า แต่แท้จริงแล้วสินค้านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ด้อยคุณภาพ และจุดที่ 6 เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่บริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 99/9 ม.6 ถ.วงแหวนรอบกลาง ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นบริษัทที่เปิดจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ยา ที่มีการแอบอ้างและโฆษณาว่าเป็นยาที่สกัดจากส่วนต่างๆ ของงู ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวซื้อกลับประเทศไปแล้วปรากฎว่าไม่มีสรรพคุณตรงตามที่โฆษณาไว้แต่อย่างใด 
ทั้งนี้ ทางด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในการปฎิบัติการวันนี้ได้มีการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนในการเข้าไปทำการตรวจสอบพื้นที่ บริษัท ทั้งหมด 6 จุด โดยได้มีการแบ่งทีมเข้าไป ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบค่อนข้างนานพอสมควร เนื่องจากต้องทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของทางผู้ประกอบการ รวมไปถึงเอกสารการเสียภาษี การจดทะเบียน การจัดตั้งบริษัท รวมไปถึงเรื่องของการชำระภาษี และต้องชี้แจงว่าในการดำเนินการครั้งนี้ไม่ต้องการทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวสูญเสียไป แต่สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสังให้ทุกส่วนราชการ กระทรวงทบวงกรม ลงไปกำกับดูแลในเรื่องของการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เล่น ทัวร์ศูนย์เหรียญ ในเรื่องของเงินไม่เข้าประเทศ ในเรื่องของการจดทะเบียนบริษัทที่มีลักษณะเป็นธุรกรรมหรือนอมินีต่างชาติ รวมไปถึงเรื่องของการไม่ชำระภาษี ที่ทำให้รัฐฯ สูญเสียรายได้ไป
สำหรับในวันนี้ก็ได้นำเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายบูรณาการร่วมกัน เพื่อที่จะเข้ามาทำการตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบตามสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมาแล้ว โดยที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้เน้นกำชับในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบในพื้นที่พัทยา และภูเก็ต มาแล้วก่อนจะได้มาดำเนินการที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ที่ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามในการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้เน้นว่าจะเป็นชาวต่างชาติชาวจีนเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงชาวต่างชาติทั้งหมดที่หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายข้อบังคับของประเทศไทยทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อยกเว้น
ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของนอมินีก็มีอัตราโทษอยู่โดยกระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่การจดทะเบียน ซึ่งการจดทะเบียนนั้นจะต้องดำเนินการกับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยบทลงโทษจะมีทั้งโทษปรับและจำคุก และในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวก็มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในเรื่องของการตรวจสอบภาษี ดังนั้นในการตรวจสอบวันนี้จึงมีการตรวจสอบทั้งในเรื่องของภาษี การรับภาษี รวมถึงการจดทะเบียน เพื่อดูย้อนไป เช่น เมื่อ 2 ปีก่อน มีการชำระภาษีแค่ไหน แล้วเอามาเปรียบเทียบ เมื่อเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อดูความแตกต่าง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น