ฆาตกรโหดกระซวก 11 แผล ฆ่าสาวสวยผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลดังเมืองลำพูน หลังก่อเหตุเผ่นหนีกลับบ้านเกิด แต่ไม่รอด ตำรวจตามรวบได้ที่อุตรดิตถ์ ไอ้โหดเปิดปากสารภาพ อยู่หอพักแห่งเดียวกับผู้ตาย ไร้งานทำจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุหวังชิงทรัพย์ เพราะเห็นผู้ตายมีฐานะดีสวมใส่สร้อยทอง หลังฆ่าเตรียมข่มขืนศพ แต่เกรงคนมาเห็นจึงคว้าทรัพย์สินเผ่น ตำรวจแฉเคยมีประวัติติดคุกคดีฆ่า-ข่มขืนมาแล้ว
เหตุการณ์ฆาตกรรมผู้ช่วยพยาบาลสาวเมืองลำพูนอย่างเหี้ยมโหดครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พ.ค.59 ร.ต.อ.พิทวัส สุขแจ่ม รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าตาย เหตุเกิดที่หอพัก พีแอนด์พี ตั้งอยู่เลขที่ 1/13 ถนนจามเทวี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน หลังจากรับแจ้ง จึงรายงานให้ พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ ผบก.ภ.จว.ลำพูน ทราบก่อนจะรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ดนัย ใจกล่ำ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองลำพูน และชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุ เป็นหอพักทั่วไป มี 2 ชั้น บริเวณห้องที่ 4 ชั้นล่าง พบศพ หญิงสาวรายหนึ่ง ทราบชื่อภายหลัง นางสาว สายใจ เขียวหน่อเมือง อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 118 หมู่ 4 ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ทำงานเป็นผู้ช่วยพยายาบาลโรงพยาบาลมีชื่อเเห่งหนึ่ง ใน จ.ลำพูน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดในสภาพเปลือย อยู่หน้าห้องน้ำ ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และพบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของกระจัดกระจาย รวมทั้งเลือดกระเด็นเต็มพื้นห้อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้น พบผู้ตายถูกมีดแทงเข้าสะบักหลังด้านขวา รวม 11 แผล ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุยังหาไม่พบ
พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ ผบก.ภ.จว.ลำพูน เปิดเผยว่า คดีนี้เรามั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ เราอยู่ระหว่างก็บหลักฐานและสอบพยานแวดล้อมก็พอจะทราบว่า ผู้ตายนั้นถูกฆ่าตายเมื่อประมาณ 1 ทุ่มเศษของวันที่ 30 พ.ค. 59 นี้ อีกทั้งสาเหตุการฆาตรกรรมครั้งนี้เราได้มุ่งประเด็นไปที่ เรื่องของชู้สาว และเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เราคงจะให้น้ำหนักไปที่เรื่องชู้สาวมากกว่า เพราะผู้ตายอาศัยอยู่เพียงลำพังและเป็นคนที่หน้าตาดีด้วย จึงมักมีทั้งผู้หญิงผู้ชายมาสนใจ ซึ่งเราต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานสักกระยะหนึ่ง จะสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ทางด้าน นายสุรชัย เขียวหน่อเมือง อายุ 37 ปี พี่ชายผู้ตาย ที่เดินทางมาดูเจ้าหน้าที่ทำงานในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ปกติน้องสาวกับตนจะไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนใหญ่ผู้ตายจะคุยโทรศัพท์กับแม่ สำหรับสาเหตุในครั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร และคนร้ายนั้นเป็นใคร แต่คงจะเรื่องชู้สาว เพราะที่ผ่านมา ผู้ตายมักจะคบหากับทอม ซึ่งตนก็เคยด่าว่า ให้น้องว่าพี่ไม่ชอบ หากจะคบก็คบกับผู้ชายให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย ไม่ชอบที่จะให้คบกับผู้หญิงด้วยกัน
ทางด้าน เพื่อนร่วมงาน ชายคนหนึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาล ด้วยกัน เล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันก่อนเสียชีวิตในตอนเย็นผู้ตายได้ขอแลกเวร โดยจะไปทำธุระในตอนเย็น จากนั้นทุกคนก็ไม่ได้สนใจว่าไปไหน จนกระทั่งมาพบถูกฆ่าตายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้ตายเป็นคนที่ไม่ชอบผู้ชาย มักจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิง หรือแฟนที่เป็นทอม โดยคบหากันหลายคน ส่วนการฆาตรกรรมในครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าลุด เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 1 มิถุนายน พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ ผบก.ภ.จว.ลำพูน ได้เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆในที่เกิดเหตุ แน่ใจว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ก็คือ นายสถาพร รีเลียง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 4 ต.ถ้ำฉลอง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งพักอยู่ห้องพักหมายเลข 6 หอเดียวกันกับผู้พยาบาลตาย ซึ่งภายหลังจากได้ก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งเป็นบ้านเกิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายศาลลำพูน ที่ 91/2559 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อจับกุมตัวนายสถาพร รีเลียง ผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อมาเมื่อศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองลำพูนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ จึงนำกำลังไปจับกุมตัวนายสถาพรที่บ้านซึ่งอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อนายสถาพรฯเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วิ่งหนีไปที่กลางทุ่งนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันวิ่งไล่จับ จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ขณะนี้กำลังนำตัวผู้ต้องหากลับไปยังจังหวัดลำพูน เพื่อนำไปค้นหามีดของกลางที่ผู้ต้องหาใช้แทงพยาบาลสาว หลังจากนั้นก็จะนำตัวไปแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ต่อไป
จากการสอบสวนนายสถาพร ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยตนได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 6 กับแฟนสาว ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับผู้ตาย ซึ่งตนไม่มีอาชีพอะไร จึงไม่มีเงิน ประกอบกับเห็นว่าผู้ตายเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะดี เนื่องจากมีการใส่สร้อยคอทองคำ ตนจึงได้ตัดสินใจจี้ชิงทรัพย์ผู้ตาย แต่ผู้ตายขัดขืน ตนจึงได้ใช้อาวุธมีดทำครัวแทงผู้ตาย จากนั้นได้หยิบเอาสร้อยคอทองคำของผู้ตายน้ำหนัก 1 บาทไปและยังขโมยเอาโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วย 2 เครื่อง ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุตนได้หลบหนีขึ้นรถไฟไปที่จังหวัดอุตรดิตถ์บ้านเกิด แตาก็ไปไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่จับได้
ด้านพล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์เนื่องจากผู้ต่องหาได้กระทำการฆาตรกรรมผู้เสียหายโดยใช้อาวุธมีดแทงถึง 11 แผล ซึ่งทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ เป็นช่วงเช้า โดยผู้ตายได้ทำกับข้าวอยู่บริเวณด้านกลังหอพัก ซึ่งผู้ต้องหาได้ทำการปีนระเบียงไปหา จากนั้นได้ใช้อาวุธมีดสั้น ซึ่งเป็นมีดทำครัว แทงผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จนผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้ลากศพผู้ตายเข้าห้องพัก และได้ทำการถอดเสื้อผ้าเพื่อหวังที่จะข่มขืน แต่เนื่องจขากเกรงว่าจะมีคนมาพบเห็น จึงได้รับหยิบทรัพย์สินของผู้ตายซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำ และโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะหลบหนีไป นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติ ยังพบว่า ผู้ต้องหานั้นเคยติดคุกมาแล้ว ตั้งแต่ปี 51 และปี 53 ในคดี ฆ่าผู้อื่นตายและเคยก่อคดีข่มขืนมาแล้ว ติดคุกเข้า-ออกตั้งแต่เป็นเยาวชน ซึ่งมูลเหตุจูงใจที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนประเด็นที่ท่อนล่างผู้ตายนั้นเปลือยเปล่า อาจจะมีการล่วงละเมิดทางเพศด้วยนั้น ต้องรอผลการชันสูตรของทางแพทย์ออกก่อน ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น