“เฮียเส่ง” อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พบเพื่อนในอดีตนายปั่น อะโนมา ยาจกเงินล้าน ย้ำมีญาติอยู่เชียงใหม่

image

เฮียเส่ง สุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พบเพื่อนนายปั่น อะโนมา ยาจกเงินล้าน ที่เสียชีวิตที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเพื่อนนายปั่น อยู่ อ.ดอยหล่อ ย้ำชัดนายตา อะโนมา พี่ชายนายปั่น เป็นสามีนางเพ็ญ ตุ่นตามเชื้อ ถือว่าเป็นพี่สะไภ้ของนายปั่น อะโนมา ยังมีญาติอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ไม่ได้หวังมรดกอะไร

กรณีโลโซเซียลเผยแพร่เรื่องราวของนายปั่น อะโนมา วัย 85 ปี เป็นขอทานเร่ร่อนเสียชีวิตที่วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา แล้วมีเงินฝากในบัญชีจำนวน 1.5 ล้านบาท ทางสื่อมวลชนนำเสนอข่าวตามหาญาติและพบนายตา อะโนมา พี่ชายนายปั่น ผู้ตายมีบ้านอยูที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตามที่ “เชียงใหม่นิวส์” เสนอข่าวไปนั้น

ข่าวคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของพี่ชายนายปั่น อะโนมา ที่บ้านตีนธาตุ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พบนางเพ็ญ ตุ่นตามเชื้อ อายุ 64 ปี ที่เป็นภรรยานายตา อะโนมา เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นพี่สะใภ้ของนายปั่น อะโนมา ผู้ตาย และสามีตนนายตา อะโนมา ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตนอยู่กินกับนายตา อะโนมา และมีลูกด้วยกัน 3 คน ขณะนั้นอาศัยอยู่บ้านดอยน้อย อ.จอมทอง ก่อนนั้นดอยน้อยอยู่เขต อ.จอมทอง ต่อมาได้แยกตัวมาเป็น อ.ดอยหล่อ ครอบครัวของสามีตนมีพี่น้องร่วมสายเลือด 3 คน คนแรกชื่อนายตั๋น คนที่สองนายตา สามีตน และคนที่สามคือนายปั่น ผู้เสียชีวิตที่ จ.สมุทรสาคร

จากนั้นครอบครัวตนเองได้ย้ายบ้านจาก อ.ดอยหล่อ มาอยู่ที่ อ.แม่แตง และมีลูกกับนายตา ท้งหมด 3 คน คนแรกคือนายวิราช อายุ 53 ปี นางสาววรรณิภา อายุ 45 ปี และน.ส.นงคราญ อะโนมา อายุ 41 ปี ขณะนี้ทั้งหมดก็อยู่ที่บ้านด้วยกันที่ อ.แม่แตงนี้ทั้งหมด ตนจำได้ว่าตั้งแต่อยู่กับสามีคือนายตา ก็เห็นนายปั่น ในอดีตนั้นเป็นคนหัวล้าน แต่เวลาผ่านไปนานหลายปีประกอบกับครอบครัวตนได้ย้ายจาก อ.ดอยหล่อ มาอยู่ อ.แม่แตง รูปหน้าตาเปลี่ยนไปมากก็เริ่มที่จะไม่แน่ใจ

แต่อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ต้องการหวังจะเอาทรัพย์สินผู้ตายแต่อย่างใด แต่หากเป็นญาติจริงก็ยินดีนำศพมาทำบุญให้

“ที่ผ่านมาก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ประสานให้ไปรับศพ หรือแจ้งว่าตนเป็นญาติแต่อย่างใด ตนก็กำลังปรึกษาทางญาติและผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก่อน และรอก่อนว่าหากพบลูกชายนายปั่น อโนมา ก็ให้ลูกชายนายปั่น นำเอาศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไปจะเป็นการดีที่สุด”

ผู้สื่อข่าวถามกรณีหากนำบุตรของนายตา สามีนางเพ็ญ ไปตรวจดีเอ็นเอ อาจจะตรงกันกับนายปั่น จะเป็นญาติผู้ตายได้นั้น นางเพ็ญ กล่าวว่า ตนยินดีเพราะไม่มีอะไรเสียหาย แต่หากพบบุตรชายนายปั่น อะโนมา ก็จะดีที่สุดเรื่องจะได้จบ เพราะครอบครัวตนไม่ได้มีเจตนาอยากจะได้มรดกแต่อย่างใด นางเพ็ญ กล่าว

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อ.ดอยหล่อ เพื่อตรวจสอบหาญาตินายปั่น อโนมา ที่เหลือในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ พบนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตประธานกรรมมาธิการพาณิชและทรัพย์สินทางปัญญาสภาผู้แทนราษฏร และอดีต สส.เชียงใหม่ดูแลพื้นที่ อ.ดอยหล่อและ อ.จอมทอง และอำเภอต่างๆในสายใต้ พาผู้สื่อข่าวไปพบกับนายคำ ปรีชาชนะชน อายุ 89 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 บ้านห้วยโจ้ดอยหล่อ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนยืนยันได้ว่านายตา กับนายปั่น อะโนมา ผู้ตายที่ จ.สมุทรสาคร ที่เป็นยาจกเงินล้านเป็นพี่น้องกัน ก่อนนั้นครอบครัวผู้ตายมีพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน 3 คน ตั้งชื่อภาษาเหนือคือ คนที่ 1 นายตั๋น คนที่ 2 นายต๋า ต่อมาเปลี่ยนมาเป็นนายตา และคนที่ 3 นายปั๋น และเปลี่ยนชื่อเพี้ยนมาเป็นนายปั่น อะโนมา ทั้งหมดมีพ่อชื่อนายมูล และนางฟอง อะโนมา บ้านเกิดอยู่บ้านดอยน้อย จะอยู่หน้าสำนักงานพัฒนาภาค 3

นายคำ เล่าอีกว่า ตนจำได้ว่าในอดีตตั้งแต่เกิดมาจนอายุตนได้ 11 ปี ตนได้เล่นกับครอบครัวนี้ทั้งหมด เพราะตนเป็นเพื่อนนายตา อะโนมา สามีนางเพ็ญ ที่อยู่ อ.แม่แตง และทุกปีครอบครัวของนางเพ็ญ จะนำบุตรหลานมาสระเกล้าดำหัวตนทุกปีอีกด้วย เพราะเคารพนับถือกันมาตลอด

“ผมจำได้แม่น นายตา มีฉายาว่า “ตาลอก” คือหัวล้านที่มาจากพ่อนายตา คือนายมูล หัวล้านมาก่อน พอโตขึ้นมา นายตั๋น นายตา และนายปั่น ก็หัวล้านกันทั้งสามคน ส่วนฉายานายปั่น มีฉายาว่า “ปั่นสึ่งตึง” เพราะนายปั่น เป็นคนเพี้ยนๆ ชอบนั่งทำท่าดีดซึงเปล่า หรือดีดกีตาร์ แล้วออกเสียงเป็นเสียงเพลงต่างๆนาๆ” นายคำ กล่าว

จากนั้นนายคำ ได้พาผู้สื่อข่าวไปพบนายเป็ง ทัพเจริญ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 11 บ้านดอยน้อย ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ ที่เป็นเพื่อนต่างวัยอีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ของครอบครัว อะโนมา นายเป็ง กล่าวว่า สมัยก่อนครอบครัวตามชนบทยากจน ครอบครัวนายปั่น ไม่มีอาชีพหลักอะไร โดยนายตา จะยึดอาชีพลากแต่ท่อนซุงไม้ที่ลอยน้ำจากนายทุนที่จ้างเป็นรายวัน ส่วนนายปั่น ก็เช่นกันรับจ้างทั่วไป ซึ่งตนไม่พบครอบครัว อะโนมา ตั้งแต่อายุ 11 ปี เพราะย้ายบ้านกันไปอยู่คนละทิศละทาง นายเป็ง กล่าว

นายเป็ง กล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ครอบครัว อะโนมา ใน อ.ดอยหล่อ ไม่มีใครเหลืออยู่อีกแล้วเพราะเท่าที่ทราบนานกว่า 60 ปี สำหรับตนไม่ได้พบครอบครัว อะโนมา อีกเลย หลังจากนายมูล และนางฟอง พ่อแม่ของนานปั่น อะโนมา ที่เสียชีวิตที่ จ.สมุทรสาคร ก็ไม่เหลือใครอีก นายเป็งกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น