ตำรวจ-ทหาร นำกำลังเข้าตรวจค้นเทศบาลตำบลช้างเผือก ยึดหลักฐานบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ก.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นำกำลังเข้าค้นที่เทศบาลตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับขบวนการเผยแพร่จดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ที่จะจัดให้มีการออกเสียงลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.59 นี้ หลังจากที่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.59 ได้เข้าทำการตรวจค้นไปแล้วครั้งหนึ่งและตรวจยึดหลักฐานที่เชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวไปแล้วจำนวนหนึ่ง

ขณะที่การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดหลักฐานได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่คาดว่าจะใช้ในการจัดทำเอกสารจดหมาย และรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน ของเทศบาลตำบลช้างเผือก ที่เบื้องต้นมีหลักฐานว่าน่าจะเป็นรถที่ถูกใช้ในการนำจดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญไปหย่อนลงตู้ไปรษณีย์เพื่อส่งไปถึงเจ้าของบ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และอื่นๆ ตามที่มีการตรวจพบรวมนับหมื่นฉบับ นอกจากนี้ยังได้ทำการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากนักศึกษาฝึกงานของเทศบาลด้วย

ขณะที่ทางด้าน  นายปวิณ ชํานิประศาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ตอนนี้มีการตั้งกรรมการในการสอบข้อเท็จจริงมกรณีที่มีเหตุการร์ว่าผู้บริหารส่วนท้องถิ่นของกรมการปกครองเข้าไปมีสวนเกี่ยวข้อง ในเรื่องดังกล่าวแล้วซึ่งต้องรอเรื่องของการสืบสวนสอบสวนซึ่งตอนนี้เป็นส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังดำเนินการรวบรวมพยานและหลักฐาน ขณะที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวักดเชียงใหม่นั้น ก็ต้องรอเรื่องของการสอบสวนต่อไป ส่วนกรณีที่เดินทางอกไปนอกปรเทศนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่านายบุญเลิศ ได้ขอลาหยุดตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้เดินทางออกไปนอกประเทศในวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งยังไม่มีหลักฐานการเชื่อมโยงไปถึงพร้อมกันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ย้ำไปถึงฝ่ายปกครองทุกพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ช่วงรณรงค์ในการออกเสียงประชามติ และปฏิบยัติตามกฏหมายโดยเคร่งครัด

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในส่วนของการสอบสวนพอจะรู้แล้วว่าผู้ที่กระทำผิดเป็นกลุ่มไหนมีใครบ้างเหลือเพียงการรวมรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับซึ่งเชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 คนที่จะถูกออกหมายจับในเบื้องต้น ตอนนี้ขอเวลา เพราะหลักฐานบางส่วนที่ต้องใช้ขั้นตอนของทางนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบทั้งลายนิ้วมือแผง และลักษณะของเนื้อกระดาษว่ามีความเชื่อมโยงกับจากพื้นที่ไหนมั่ง ซึ่งจดหมายตอนนี้มีมากกว่า 1 หมื่นฉบับ จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ขณะที่วานนี้ก็ได้เข้ารวบรวมใหลฃักฐานเพิ่มเติมอีก 2 จุด ก็ไเด้ชิ้นส่วนของวัตถุพยานเพิ่มเติม ทุกวันก็จะมีการประชุมสรุปเพิ่มเติม หากพร้อมก็จะขออนุมัติออกหมายจับทันทีแล้วจะมีการแถลงต่อสื่อมวลชนทันที ซึ่งต้องให้ความเป้นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้เชื่อว่าจากหลักฐานเบื้องต้นก็น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงถึงนักการเมืองท้องถิ่นด้วย

นอกจากนี้รายงานข่าวแจ้งว่า ทางด้านจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการสอบสวนแล้วว่า ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารเทศบาลตำบลช้างเผือก มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการเผยแพร่จดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นและยึดหลักฐานเป้าหมาย 10 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เมื่อวันที่ 23 ก.ค.59 ที่ผ่านมา พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน โดยเป้าหมายหลักของการตรวจค้นดังกล่าวได้แก่การเข้าตรวจค้นที่บริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด ธุรกิจของตระกูล “บูรณุปกรณ์” ที่มีนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศ เป็นหัวเรือใหญ่ รวมทั้งการเข้าตรวจค้นเทศบาลตำบลช้างเผือก ที่มีนายคเชน เจียกขจร ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเขยของนายบุญเลิศ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีอยู่ โดยที่เบื้องต้นมีรายงานระบุว่า สามารถตรวจยึดหลักฐานที่เชื่อว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญได้จำนวนหนึ่ง