เชียงใหม่ผนึกกำลังต้อนรับ นักท่องเที่ยวจีน วอนอย่าเชื่อข่าวลือ….

กระแสนักท่องเที่ยวจีนบอยคอตประเทศไทย – คนเชียงใหม่ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ถูกนำไปขยายความกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดทางสื่อสังคมออนไลน์ จังหวัดเชียงใหม่สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดแถลงข่าว ชึ้แจงข้อเท็จจริงด่วน เกรงบานปลายส่งผลกระทบต่อรัฐและประชาชน
นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการแชร์ข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ ภายหลังหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าของจีนลงข่าวไม่สนับสนุนให้คนจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวอ้างว่า “คนเชียงใหม่ไม่ต้อนรับชาวจีน” หรือ ดูถูกนักท่องเที่ยวจีน เป็นผลสืบเนื่องจากการออกกฎหมายของกระทรวงคมนาคมที่จำกัดขอบเขตรถบ้านจากจีนเข้ามาในประเทศไทย ให้อยู่ได้เฉพาะจังหวัดต้นทางด่านที่เข้ามา ไม่ให้ข้ามจังหวัด และต้องขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน เมื่อมีการนำไปโพสต์และแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการนำเรื่องเก่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนมาสร้างกระแส ให้เข้าใจผิดว่า คนเชียงใหม่รังเกียจชาวจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนบอยคอตเชียงใหม่ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากความวิตกกังวลต่อมาตรการควบคุมรถบ้านและคาราวานรถยนต์จากประเทศจีนของผู้ประกอบการนำเที่ยวในประเทศไทย ที่ให้สัมภาษณ์สื่อจีน และได้ขอให้มีการทบทวนใหม่ เพราะเกรงว่ากฎหมายจะตัดโอกาสทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย กลับเป็นเรื่องที่นำไปขยายความ เข้าใจผิดบานปลาย กลายเป็นประเด็นคนเชียงใหม่รังเกียจนักท่องเที่ยวจีน ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน และมีการพูดถึงคนจีนบอยคอตไม่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย เรื่องนี้จะนิ่งนอนใจไม่ได้ จึงสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานผู้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ จัดแถลงข่าวด่วนต่อสื่อมวลชนทั้งสื่อจีนและสื่อไทย โดยเชิญทางกงสุลจีนประจำเชียงใหม่ ให้เข้าร่วมรับฟังด้วยเพราะเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องเสียหายต่อรัฐและประชาชน
Image_26dd6d9นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงใหม่  กล่าวว่า ผู้ว่าการ ททท.ได้ออกแถลงข่าวต่อสื่อข่าวจีนที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ในส่วนของภาคเหนือได้เชิญผู้นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่ได้ยกประเด็นนี้มาพูด เพื่อไม่ให้ข้อมูลบานปลายไปมากกว่านี้ จากการสอบถามไปยัง สำนักงาน ททท. ในประเทศจีนทุกแห่งไม่ว่าจะเป็น สำนักงานกรุงปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, เฉิงตู ทุกแห่งบอกว่าไม่มีการพูดถึงกระแสคนจีนบอยคอตประเทศไทยตามที่เป็นข่าว กลายเป็นว่านักข่าวมาขอสัมภาษณ์ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย นำไปตีความ ขยายความกันไปเองจนเกินขอบเขตในทางโซเชียลมีเดีย ตอนนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามทำความเข้าใจ เพื่อพยายามให้จบประเด็นนี้ให้ได้
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่  กล่าวอีกว่า  นักท่องเที่ยวจีนที่มาจังหวัดเชียงใหม่ประมาณปีละ 8 แสนคน แต่ตัวเลขที่เข้ามาทางด่านที่อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย ด่านประมาณ 50,000 คนเท่านั้น ไม่น่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่มากนัก หากกฎหมายใหม่ของกระทรวงคมนาคมออกมาใช้ ผู้ที่เดือดร้อนส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยวที่จัดคาราวานจากคุนหมิง มาตามเส้นทาง R3A ประมาณ  7- 8 ราย เท่านั้น ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้ามาทางด่านอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่เมื่อมีการนำไปโยงเรื่องอื่นขยายความให้เกิดกระแสคนเชียงใหม่รังเกียจนักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ขยายวงกว้างออกไปจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งที่เดินทางโดยเครื่องบินและรถยนต์แน่นอน

 

 ประเด็นที่เป็นข่าวบนโลกโซเชียลในปัจจุบันเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีน”บอยคอต” นั้น จากการประกาศปิดด่านผ่านข้ามแดนเชียงของชั่วคราว ทำให้ บริษัทในประเทศจีนเข้าใจผิด ซึ่งนักท่องเที่ยวเราเองมีความห่วงใยต้องดูแลนักท่องเที่ยวอยู่แล้วเราต้องเป็นเจ้าภาพที่ดีแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนต้องมีการปรับตัวส่วนข่าวโซเชียลที่เสนอกันแพร่หลายในแง่ลบเรื่องที่ไม่จริง
เรายังต้องการกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งนี้สิ่งที่เกิดความรู้สึกเราควรหลีกเลี่ยงด้วยข้อเท็จจริงคือยังเราไม่รักกันประเด็นพวกนั้นเลยประเด็นที่สำคัญคือเราต้องดูแลนักท่องเที่ยวอย่างไรเรื่องของการ ใช้คำพูดที่จะออกมาตรการข้ามแดนเกิดจากข้อมูลที่เป็น ข้อเท็จจริงหรือเปล่ากลุ่มที่ทำ บริษัททัวร์ประมาณ6-8 บริษัทในประเทศจีนได้กังวลถึงมาตรการดังกล่าว ถึงข้อจำกัดว่ารถยนต์ที่เดินทางมาท่องเที่ยวไม่สามารถข้ามไปยังจังหวัดอาจได้ต้องอยู่เฉพาะเชียงรายจึงทำให้กังวลกระทบการเดินทางท่องเที่ยวผ่านทางรถยนต์ แล้วไปตีความว่านักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางข้ามมาฝั่งไทยหรือเชียงใหม่
อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงของมาตรการที่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไรนั้น กลุ่มบริษัททัวร์จีนบางบริษัทตีความไปก่อนจึงทำให้เกิดปัญหาประเด็นดราม่าบนโลกโซเซียลขึ้นมา ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ขอยืนยันว่าปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นประเด็นดังกล่าวพูดถึง ตามนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ภาคการท่องเที่ยว องค์กรมีการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจีน หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นางวิภาวัลย์  วรพุฒิพงศ์
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
ประเด็นพูดถึงนักท่องเที่ยวจีนลดลงตามข่าวบนโลกโซเซียลนั้น ข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้ลดลงตามที่เป็นข่าวบนโซเชียลเสนอไปเบื้องต้น จำนวนนักเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเดินทางโดยเครื่องบินเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ มากกว่าการเดินโดยรถยนต์อยู่แล้ว
ส่วนนักท่องเที่ยวจีน ที่เดินทางเข้ามาทางR3a ไม่ได้นั้น เนื่องจากมีการปิดด่านทำให้บริษัททัวร์ในคุณหมิง ประเทศจีน บางบริษัทฯได้รับผลกระทบจากการจองกรู๊ปทัวร์ล่วงหน้า ทำให้เป็นเหตุเกิดปัญหาไม่สามารถเดินทาง ผ่านเส้นทาง R3a โดยรถยนต์ได้จึงเป็นประเด็นที่มาของการ”บอยคอต” ซึ่งขณะนี้เส้นทางอาสามเอมีการปิดช่องทางการเดินรถจีนทำให้ภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว หรือหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จึงตระหนัก ถึงเรื่องผลกระทบ ซึ่งขนาดนี้ได้ประสานงานไปยังผู้เกี่ยวข้องทำหนังสือยื่นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วเชื่อมั่นว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนในเรื่องของผลกระทบที่นักท่องเที่ยวจีนไม่สามารถเดินทาง โดยรถยนต์มายังจังหวัดเชียงใหม่ได้
จังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาต่อเนื่องไม่ได้รับผลกระทบ ได้เหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากที่เกิดปัญหาแล้วเราได้สำรวจไปยังเมืองใหญ่ใหญ่ในประเทศจีนเมืองเซี่ยงไฮ้เมืองคุณหมิงเกี่ยวกับการรับทราบถึงปัญหาดังกล่าว มีแต่บริษัทแต่บริษัททัวร์เปิ้ลตนเท่านั้นทีไรรับผลกระทบซึ่งทางเราก็ได้ประสานทำความเข้าใจกับบริษัททัวร์ดังกล่าวยังเมืองคุนหมิงเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวเชียงใหม่ยินดีต้อนรับ นักท่องเที่ยวจีน ในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดและขณะเดียวกันภาครัฐและภาคเอกชนมีมาตรการที่สอดคล้องกันในเรื่องของการต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด

นางละเอียด บุ้งศรีทอง
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
การเติบโตของนักท่องเที่ยวยังคงมีต่อเนื่องประเด็นที่ชาวจีน “บอยคอต” จังหวัดเชียงใหม่นั้น เป็นประเด็นเล็กน้อยมากที่เป็นการเข้าใจผิดบอกต่อๆ กัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในช่วงกรกฎาคม- สิงหาคมนั้น กลุ่มชาวจีนยังคงโตเพิ่มขึ้น ภาพรวม นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่จะได้ผ่านทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตัวเลขบนฐานข้อมูลนั้น การเติบโตมากกว่า 15 ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่
จะเห็นได้ว่าในช่วงกรีนซีซั่น หรือช่วงโลซีซั่นที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจะมีจำนวนลดลงมากกว่าในปี 2559 ที่เดินทางผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่มีการเติบโตมากขึ้นกว่า 75% และปี 2559 มีตัวเลขโตอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมของห้องพักทั้งหมดในปี 2559 คาดว่าน่าจะเติบโตตามเป้าหมาย 3- 5%
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นบนทางสื่อออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวให้เข้าใจ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และชาวจีนยังคงเชื่อมั่นและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ต่อเนื่อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น