เสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย-พม่า ชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ผบ.ฉก.ร.7 นำส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชนพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับทหารเมียนมาในเขตรัฐฉาน ตรงข้ามช่องทางบ้านห้วยผึ้ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน  สร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดนในระดับท้องถิ่นและเศรษฐกิจของประชาชนทั้งสองประเทศ สู่ AEC  ตามนโยบายกองทัพบก

101924เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันนี้ 29 ก.ค.59 พ.อ.ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผบ.ฉก.ร.7 นำส่วนราชการ ทหาร  ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ  ทหาร  ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้ประกอบการภาคเอกชน และประชาชน ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 30 คน เดินทางพบปะพัฒนาสัมพันธ์ กับ พ.อ.เส่งวิน ผบ.ควบคุมทางยุทธวิธีที่ 2 ของทหารเมียนมา และประชาชนชาวไทยใหญ่ บ้านหัวเมือง อำเภอหัวเมือง จังหวัดลางเคอ เขตรัฐฉาน  สหภาพเมียนมา ด่านตรวจข้ามช่องทางจุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้ง ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

ได้จัดกิจกรรมตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานชายแดนไทย-เมียนมา ตามนโยบายของกองทัพบก เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและมอบพันธุ์ปลาจากศูนย์วิจัยพัฒนาประมงน้ำจืดแม่ฮ่องสอน จำนวน 5,000 ตัว พันธุ์ไก่จากสำนักงานปศุสัตว์ จำนวน 100 ตัว และพันธุ์ไม้สัก ไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน จำนวน 500 ต้น พันธุ์ไม้พยุง จำนวน 200 ต้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน ป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานเมียนมา โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนทางตรวจคนเข้าเมืองให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ พร้อมกันนี้ฝ่ายไทยยังได้ของความร่วมมือฝ่ายเมียนมา กวดขันและปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตามแนวชายแดน

101921

ในการพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับทหารเมียนมา ดังกล่าว  พ.อ.ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้นำประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับประชาชนชาวไทยใหญ่ในเขตรัฐฉาน ถวายเทียนพรรษาและทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดสุทธิ อำเภอหัวเมือง เพื่อเป็นพุทธบูชาเนื่องในโอกาสเข้าพรรษา โดยมีประชาชนชาวไทยใหญ่ในเขตบ้านหัวเมือง รัฐฉาน กว่า 200 คน ให้การต้อนรับ จากนั้นส่วนราชการ ประชาชนทั้งสองประเทศได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาลงอ่างเก็บน้ำหนองหลวง บ้านปางสะเป่

101923 101922สำหรับช่องทางห้วยผึ้ง ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจุดผ่อนปรนชั่วคราวการค้าชายแดนของประชาชนไทยและประชาชนชาวเมียนมา ซึ่งมีการค้าขายในระดับท้องถิ่นกันมานาน สินค้าส่วนใหญ่ของไทยที่ส่งออกช่องทางดังกล่าว จะเป็นเครื่องอุปโภค-บริโภค รถยนต์เก่า ส่วนสินค้านำเข้าจากเมียนมา จะเป็นโคกระบือมีชีวิต เปลือกก่อ  ไม้จันทน์หอม สร้างรายได้ให้ประชาชนระดับท้องถิ่น และเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน การพบปะเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยกับทหารเมียนมา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน จะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนของเศรษฐกิจอาเซียน AEC ของทั้งสองประเทศข้ามไปมาหาสู่กันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น