คุม 11 ราย ส่งศาลทหาร ผิดพ.ร.บ. ออกเสียง ประชามติ

S__3416143ศาลออกหมายจับแล้ว 11 ผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดกรณีจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนอีก 2 รายยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวน เบื้องต้นดำเนินคดีตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น และ ม.210 สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการเข้าข่ายอั้งยี่ ซ่องโจร ด้านตำรวจเตรียมคุมตัวส่งศาลทหารภายใน 48 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคดีของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พรบ.การออกเสียงประชามติในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และนำไปสู่ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ มาตรา 210 ตามคำสั่งของทหารนั้น ด้านพล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 ที่ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางศาลทหารได้เห็นชอบให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกรณีจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 11 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งรายชื่อทั้ง 11 คน ประกอบด้วย 1.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2.นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 3.นายวิศรุต คณะนิติสาร พนักงานเทศบาลตำบลช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 4.น.ส.ธารทิพท์ บูรณุปกรณ์ ทันตแพทย์ชำนาญการเทศบาลตำบลช้างเผือก (น้องสาวของทัศนีย์ และทัศนัย บูรณุปกรณ์) 5.นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก 6.นายอติพงษ์ คำมูล ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลช้างเผือก จ.เชียงใหม่ 7.น.ส.เอมอร ดับโศรก ผู้ช่วยนักวิชาการส่งเสริมสุขภาพเทศบาลตำบลช้างเผือก 8.นางสุภาวดี งามเมือง กรรมการ บริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด 9.นางกอบกาญจน์ สุตีคา พนักงาน บริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด 10.นายกฤติกร โพทะยะ ผู้ช่วยบุคลากรเทศบาลตำบลช้างเผือก จ.เชียงใหม่ 11.นายเทวรัตน์ อินต้า คนขับรถของน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์

ขณะเดียวกัน ในส่วนของรายที่ 12 คือ นายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และรายที่ 13 คือ นายอัครพล ถนอมศิลป์ เจ้าของโรงพิมพ์นพบุรีการพิมพ์ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เกี่ยวข้องการจัดพิมพ์เอกสารจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นยังไม่ได้ออกคำสั่งศาล และยังคงอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน โดยทั้ง 13 คนยังคงอยู่ที่ มทบ.11 กรุงเทพมหานคร และในวันนี้ได้มีการนำตัวเลขานุการของนายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก ซึ่งคาดว่าเป็นรายที่ 14 ไปยัง มทบ.11 เพื่อสืบสวนเพิ่มเติมถึงการเกี่ยวโยงกรณีบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ

จากนั้นภายในวันที่ 2 สิงหาคม 2559 นี้ การควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องทางคดีทั้ง 11 คน ของ มทบ.11 จะหมดลง เพราะครบอำนาจการคุมตัว 7 วัน ทำให้ทางกองปราบปรามได้มีการประสานงานให้พนักงานสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 5 เดินทางเข้ามาแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการกระทำความผิด ว่าด้วยพรบ.การออกเสียงประชามติ ที่ตำรวจกองปราบปราม “ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้

โดยการควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องทางคดีทั้ง 11 คน ของ มทบ.11 จะหมดลงเพราะครบอำนาจการควบคุมตัว 7 วัน ทางฝ่ายทหารจะต้องนำตัวทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน ตำรวจกองปราบปราม ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น และ ม.210 สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการเข้าข่ายอั้งยี่ ซ่องโจร ซึ่งกองปราบปรามได้ประสานให้พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางเข้าแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการกระทำความผิด พรบ.การออกเสียงประชามติ ที่ตำรวจกองปราบปราม และจะมีการมอบหมายให้ดำเนินการสอบสวนที่กองปราบปราม โดยพนักงานสอบสวนของภาค 5 อยู่ร่วมสอบสวนด้วยภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คน มามอบให้ศาลทหารเชียงใหม่ ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปในวันที่ 4 สิงหาคม 2559 ซึ่งในช่วงเย็นของวันนี้ ( 1 ส.ค.) พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ จะเดินทางเข้าไปรับตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คนด้วยตัวเอง และพร้อมคุมตัวส่งศาลทหารภายใน 48 ชั่วโมงนับจากนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น