ป่วนลงประชามติ สันป่าตองชื่อหาย

5

มือมืดป่วนออกเสียงประชามติ ขโมยบัญชีรายชื่อหายเงียบไปจากหน่วยออกเสียง ล่าสุดตรวจพบ 2 จุด ในพื้นที่ อ.สันป่าตอง และ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ด้านเจ้าหน้าที่เร่งทำสำเนาบัญชีรายชื่อติดตั้งใหม่ ผอ.กกต.ทราบเรื่องแล้วพร้อมส่งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่โค้งสุดท้ายก่อนออกเสียงประชามติ เชียงใหม่-ลำพูน เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นคึกคัก

เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 2 ส.ค.59 ทาง พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากพ.ต.อ.อัครินทร์ กาสา ผกก.สภ.สันป่าตอง ที่หน่วยออกเสียงประชามติ ที่14 บ้านบ่อก๊าง ม.14 ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ มีการสูญหายของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงประชามติ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งไว้ และทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการแจ้งความกับ พงส.สภ.สันป่าตอง เพื่อใช้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งได้เข้าทำการตรวจสอบ โดยเบื้องต้นทราบว่าการสูญหายดังกล่าวเป็นลักษณะที่ถูกขโมยไป และไม่มีร่องรอยของการเกิดจากภัยธรรมชาติเช่น ลมพัดหรือไฟไหม้แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ประสานแจ้งให้ทางฝ่ายทะเบียนอำเภอรับทราบพร้อมทั้งได้ให้ทางอำเภอดำเนินการตีพิมพ์บัญชีรายชื่อใหม่ นำไปติดตั้งตามเดิมแล้ว

ทางด้าน นายธนู แสนจัทร์ ผญบ.หมู่ 14 เผยว่า คาดว่าบัญชีรายชื่อที่สูญหายไปในครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืน 30 กรกฎาคมที่ผ่านมาและชาวบ้านมาทราบว่าบัญชีรายชื่อได้หายไปในช่วงสายของวันที่ 31 กรกฎาคมจึงได้เข้าแจ้งความที่สภ.สันป่าตอง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหนหรือบุคคลใดที่มาขโมยบัญชีรายชื่อดังกล่าวล่าสุดในวันนี้ทางอำเภอได้ส่งสำเนาบัญชีรายชื่อมาให้ใหม่ ซึ่งหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์ในการออกเสียงประชามติทั้งสิ้น 222 คน จึงได้นำมาติดตั้งไว้ที่หน่วย ในช่วงกลางวันเพื่อให้ชาวบ้านได้มาตรวจสอบบัญชีรายชื่อและเมื่อกลางคืนคณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียงก็มีมติให้ผู้ใหญ่บ้านถอดเก็บรักษาไว้และได้นำมาติดตั้งอีกครั้งในช่วงเช้าจนกว่าจะเสร็จสิ้นการออกเสียงประชามติในครั้งนี้

ขณะเดียวกันภายหลังทางผู้สื่อข่าวทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นได้ยืนยันว่าเหตุกาณณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งทางตนได้รับทราบข้อมูลแล้ว นอกจากนี้ยังมีการรายงานบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงประชามติสูยหายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้งสิ้น 2 จุดคือ หน่วยออกเสียง ที่14 บ้านบ่อก๊าง ม.14 ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ และอีกจุดคือ ที่บ้านวังมุ่น ม.4 ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตามในการดำเนินการแก้ไขปัยหาเบื้องต้นนั้นได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ พร้อมทั้งได้มีการแจ้งความกับทาง พงส.สภ.ในพื้นที่แล้ว และได้มีการนำบัญชีรายชื่อใหม่ที่ตีพิมพ์ไปติดตั้งอีกครั้ง สำหรับในพื้นที่อื่นๆ พบว่าเหตุการณ์ยังปกติอยู่

ขณะที่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนออกเสียงประชามติ จังหวัดเชียงใหม่เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ จัดเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็นเรื่อง “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ และประเด็นเพิ่มเติม” โดยมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมประมาณ 400 คน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่เกิดความตื่นตัวและมีโอกาสรับรู้อย่างถูกต้องเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติและประเด็นเพิ่มเติม รวมทั้งได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบ

โดยการจัดเวทีครั้งนี้มี ดร.อมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ,พลตำรวจตรีพิสิษฐ์ เปาอินทร์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และพลเอกภิญโญ แก้วปลั่ง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ร่วมชี้แจงเรื่อง “ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. …” ขณะเดียวกันมีรองศาสตราจารย์ ดร.อรรณพ พงษ์วาท กรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาการศึกษา,ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ,ดร.นนท์ น้าประทานสุข วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และนายชำนาญ จันทร์เรือง อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นด้วย

สำหรับการดูแลให้การจัดการออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติม ในวันที่ 7 ส.ค.59 นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้านไว้แล้ว เพื่อให้การออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งภาพรวมถือว่าเป็นปกติดี หากไม่นับรวมกรณีการจับกุมกลุ่มขบวนการเผยแพร่จดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งการขโมยบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติไปจากหน่วยเลือกตั้งในอำเภอสันป่าตอง และอำเภอแม่ริม รวม 2 หน่วย.

ด้าน จ.ลำพูน ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน อ.เมืองลำพูน สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน จัดกิจกรรมสนับสนุนและสร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตภาคประชาชน ในกิจกรรม ” ประชามติ – ลำพูนโปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน ” โดยมี นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดงาน มี นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนเข้าร่วมงานและให้การต้อนรับเป็นจำนวนมากเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดลำพูน ,สภาพัฒนาการเมืองและสภาองค์กรชุมชน

นายรณรงค์ เสาเหม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เครือข่ายภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย วางแผน ตรวจสอบ กำกับ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของภาครัฐ ตามยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้แทนจากภาคประชาชน , เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคม และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้น ในภาคเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 มีการเดินรณรงค์ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาคประชาชน เคลื่อนขบวนจากศาลากลางจังหวัดลำพูน ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน และการบรรยายหัวข้อ “ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนคือหัวใจของงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ” สำหรับภาคบ่าย จะเป็นการบรรยายหัวข้อ “ รัฐธรรมนูญต้านโกง เพื่อลำพูนโปร่งใส ไรคอร์รัปชัน ” และ “ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ”ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น