ลงประชามติคึกคัก-ปชช.แห่ใช้สิทธิ์-เข้าคูหาหย่อนบัตร

ออกเสียงประชามติ (2)
บรรยากาศออกเสียงประชามติหลายพื้นที่คึกคัก โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาใช้สิทธิ์ที่หน่วยออกเสียงที่ 2 วัดชัยมงคล พร้อมระบุสถานการณ์ยังคงเรียบร้อยดีทั้งภายในตัวเมืองและรอบนอก คาดจะบรรลุผลสำเร็จตามที่ทาง กกต. ตั้งเป้า ขณะที่จังหวัดลำพูนและลำปางการออกเสียงประชามติยังคงเรียบร้อยดีเช่นกัน
เช้าวันที่ 7 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการเปิดหีบบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ที่จังหวัดเชียงใหม่ช่วงเช้าเริ่มคึกคักท่ามกลางบรรยากาศที่ท้องฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆฝนแต่ไม่มีฝนตกลงมาเช้านี้ โดยเฉพาะหน่วยออกเสียงที่ 2 ที่วัดชัยมงคล ต.ช้างคลาน แขวงเม็งราย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้กับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยในเวลาประมาณ 10.30 น. นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เดินทางออกมาใช้สิทธิ์ในจุดดังกล่าว ซึ่งได้หมายเลขอันดับที่ 1โดยมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้การอำนวยความสะดวก และดูแลความเรียบร้อยจนกระทั่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หย่อนบัตรเป็นที่เรียบร้อยโดยสถานการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ส่วนประชาชนก็ออกมารอใช้สิทธิ์ที่หน่วยนี้คึกคัก ซึ่งมีประชาชนที่มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวน 650 คน ซึ่งมี นางเจียมจิตร วงศ์อูบ เดินทางมารอขอใช้สิทธิ์เป็นคนแรก และได้ร่วมเป็นพยานในการเปิดหีบ ขณะที่ประชาชนที่มาตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบก็ต้องตรวจสอบรายชื่อ และรับบัตรคิวซึ่งมีผู้มารอก่อนเวลาเปิดออกเสียงมากกว่า 10 คน
ทั้งนี้ทาง นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับบรรยากาศการลงประชามติในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าของการเปิดหีบตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นมา ในทุกหน่วยที่ออกเสียงประชามติพบว่าก็ได้มีการเปิดให้บริการกับพี่น้องประชาชนเพื่อให้มาใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา จากรายงานเบื้องต้นก็มีความคึกคักกันพอสมควร แต่ละหน่วยก็มีประชาชนเดินทางออกมาใช้สิทธิ์กันมากพอสมควร อย่างเช่น หน่วยที่ออกเสียงนอกเขต ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติฯ ก็มีพี่น้องไปใช้สิทธิ์กันเป็นจำนวนมาก ส่วนสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้านี้ยังพบว่าสถานการณ์ยังคงปกติและไม่มีข้อบกพร่องหรือเหตุการณ์ที่ไม่สงบแต่อย่างใด ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางเจ้าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในการดูแลรักษาความสงบตลอดการจัดการออกเสียงประชามติในวันนี้
ขณะเดียวกันในพื้นที่รอบนอกอย่างเช่นอำเภออมก๋อยก็มีรายงานมาว่า สถานการณ์สภาพอากาศยังดีอยู่และมีพี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากการคาดการณ์ของทางกรมอุตุฯ ที่แจ้งว่าจะมีพายุเข้ามาในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังไม่มีรายงานว่าที่ใดเกิดปัญหาจากพายุฝนเป็นพิเศษ ยกเว้นเมื่อวานนี้ที่อำเภอแม่แตงที่เกิดพายุฝนตกหนัก แต่ก็ไม่กระทบต่อพื้นที่ที่พี่น้องประชาชนจะไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติแต่อย่างใด ส่วนเรื่องความเป็นห่วงที่จะเกิดบัตรเสียนั้นทางตนก็ได้ประสานกับทาง กกต.ให้ออกแบบบัตรที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาเรื่องบัตรเสียและคาดว่าจะแก้ไขปัญหาได้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขระเดียวกันที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 บริเวณวัดชัยมงคล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกมาใช้สิทธิ์การลงคะแนนประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็ได้มี นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่ง เจ้าของฉายา “โหร คมช” หรือ โหรวารินทร์ ได้ออกมาใช้สิทธิ์ เช่นกันโดยโหรวารินทร์ได้หมายเลขอันดับที่ 134 ซึ่งการลงคะแนนเสียง โดยภายหลังการลงคะแนนประชามติโหรวารินทร์ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ กรณีดวงบ้านเมืองหลังจากนี้ว่าดวงบ้านเมืองไม่มีอะไร ทุกอย่างไปตามโร้ดแมพ(road map)เพราะเรื่องอุปสรรคบ้านเมืองนั้นผ่านมาหมดแล้ว และปีหน้าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ขณะที่การลงประชามติในวันนี้จะผ่านไปด้วยดี ไม่ติดปัญหาใดๆ
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็เดินทางมาลงชื่อใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยทาง นายนฤชา สิงห์โตทอง อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า ในการมาลงประชามติในวันนี้ ก็ได้ออกมาใช้สิทธิ์ตามหน้าที่ของประชาชนที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ให้มาออกเสียงในวันที่ 7 ส.ค. โดยส่วนตัวตั้งใจมาออกเสียงเพื่อบ้านเมือง และปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อบังคับที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้ทุกอย่าง
ด้าน นายสมบัติ จัทร์อันพรหม อายุ 77 ปี และ นางเยาวนีย์ จันทร์อันพรหม อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา เปิดเผยว่า การออกมาในวันนี้ เพื่อใช้สิทธิ์ออกเสียงด้วยความเต็มใจตามหน้าที่ของประชาชนคนไทย ที่ทางรัฐบาลได้กำหนดให้ออกเสียงประชามติในวันนี้ ซึ่งก็ได้ปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่คณะกรรมการกำหนดไว้ และตั้งใจมาใช้สิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากเกรงว่า ช่วงสายและบ่ายจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์กันเป็นจำนวนมาก และเกรงว่าจะเกิดความล่าช้า อย่างไรก็ตามการออกมาใช้สิทธิ์ในวันนี้ ตนก็ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับทุกข้อ และได้ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี
ผุ้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง อดีต สส.เชียงมหม่ และอดีตแกนนำวังบัวบาน ได้ออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 สโมสรหมู่บ้านสันป่าเลียง ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยทาง นางเยาวภา ได้นั่งรถตู้โฟล์คสีเทา ทะเบียน กธ- 77 เชียงใหม่ มาพร้อมคนสนิท มาใช้สิทธิ์เพียงลำพัง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กล่าวทักทายกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวในครั้งนี้ ซึ่งนางเยาวภา อยู่ลำดับ 170 ซึ่งเจ้าหนาที่ได้เข้ามาตรวจสอบจากบัตรประชาชน รับใบลงประชามติเข้าจุดลงคะแนนที่ 1 ก่อนจะมาหย่อนบัตร กล่าวทักทายว่าวันนี้ยังอยู่จังหวัดเชียงใหม่ อีก 1 วันก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ส่วนที่จุดลงประชามติจุดอื่นๆ ก็มีรายงานบรรยากาศเข้ามาเช่นกัน อาทิ ที่จุดออกเสียงประชามติ หน่วยที่18,19 ที่รร.เจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 1 หมู่บ้านม้งดอยปุย หมู่ 11 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง โดยมีผู้มีสิทธิออกเสียงทั้ง2หน่วยรวมกันกว่า 850 คน โดยพบว่าวันนี้ชาวบ้านมีความตื่นตัวในการมาใช้สิทธิออกเสียงกันอย่างคึกคัก โดยมีชาวบ้านจำนวนกว่า10 คนมารอตั้งแต่ก่อน08.00น. เพื่อลงเสียงประชามติ โดยชาวบ้านคนแรก มารอตั้งแต่เวลา 07.45น. โดยมาตรวจรายชื่อและหมายเลขของตนก่อนจะยืนต่อแถวรอเวลาเปิดหีบอย่างเป็นระเบียบ ทั้งยังพบว่าชาวบ้านที่มา ต่างพากันแต่งชุดประจำเผ่าม้ง ที่มีสีสันสดใส และเป็นเอกลักษณ์ ของชาวม้ง บางคนก็อุ้มลูกและผูกลูกด้วยผ้าผืนไว้ที่ด้านหลัง และมาลงเสียงประชามติก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงานต่อไป ซึ่งจะหาชมภาพบรรยากาศแบบนี้ได้ยาก ถือเป็นสีสันของการเลือกตั้งหรือลงประชามติในทุกครั้ง นอกจากนั้นยังพบว่า ก่อนเวลาเปิดหีบ ทางหมู่บ้านม้งดอยปุยก็ได้มีการเปิดวิทยุเสียงตามสายชักชวนให้ชาวบ้านออกมาใช้สิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สร้างความตื่นตัวให้แก่ชาวบ้านเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะที่บริเวณศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยออกเสียงที่ 14-20 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวม 7 หน่วย ที่มีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งสิ้น 3,650 คน กรรมการและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้มีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงก่อนเวลา 08.00 น.ที่จะเปิดให้ใช้สิทธิ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยประจำหน่วยด้วย ในส่วนของผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติในครั้งนี้ที่หน่วยเลือกตั้งแห่งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น พบว่าได้มีการเดินทางมาตรวจสอบรายชื่อและเตรียมใช้สิทธิตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มเปิดให้ใช้สิทธิได้ ซึ่งทันทีที่กรรมการประจำหน่วยประกาศให้เริ่มใช้สิทธิได้ ผู้มีสิทธิได้ทยอยเข้าใช้สิทธิทันทีและมีการเดินทางเข้าใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี
ส่วนที่จังหวัดลำพูน ที่บริเวณวัดสุพรรณรังษี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน บรรยาการมารอลงประชามติ ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร โดย ก่อนเวลาลงประชามติ ได้มี นายธีรพร ศิริเวชภัณฑ์ อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 61 ถนนอินทยงยศ ต.ในเมือง จ.ลำพูน มารอเป็นคนแรก โดย นายธีรพร กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น โดยตนตื่นตั้งแต่ ตี 3 แล้ว โดยตั้งใจจะมาลงประชามติที่วัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดที่บ้านของตนเองจะมาลง และยังได้บอกให้ญาติพี่น้องลูกหลานมาลงเพื่อรักษาสิทธิ์ไว้ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นเมื่อถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่เปิดใหลงประชามติ โดยมีนาย ณรงค์ อ่นสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้เดินทางมาดูแลความสงบเรียบร้อยพร้อมทั้งถือโอกาสลงประชามติตามที่มีสิทธิ์ จากนั้นก็ได้เชิญชวนให้ประชาชนทุกคนที่มารอต่อแถวลงประชามติอย่างพร้อมทเพรียงกัน
นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในเรื่องของความพร้อมทางตนได้สั่งการมาตั้งแต่ต้น และเมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีการตั้งด่าน บูรณาการตั้งแต่ทหารตำรวจฝ่ายปกครองทำงานร่วมกันไม่มีเหตุการร์อะไรที่รุนแรงทุกอย่างยังเป็นปกติดี ต่อจ่ากนี้ไปจนถึงเวลา 16.00 น. คาดว่าประชาชนคงจะมาลงประชามติ เกินกว่าเป้าที่กำหนกชดเอาไว้ เพราะจังหวัดลำพูนที่ผ่านมาตื่นตัวในการลงคะแนนเสียง ครองแชมป์มาตลอดจนถึงสมัย ที่ 11 และครั้งนี้เป็นการลงประชามติก็คาดว่าคงจะมีคนมาลงเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ สำหรับในส่วนของความวุ่นวายคงจะไม่มีอะไรเพราะได้แจ้งให้กับทุกหน่วยคอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยมาตั้งแต่ต้นแล้วเช่นกัน
ด้านจังหวัดลำปาง นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เดินทางไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ณ โรงเรียนเทศบาล 3 ซึ่งเป็นหน่วยออกเสียงที่ 3 ตำบลหัวเวียง เทศบาลนครลำปาง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โดยหน่วยออกเสียงแห่งนี้ มีจำนวนบ้าน 222 หลัง มีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งสิ้น 594 คน ซึ่งภายหลังจากใช้สิทธิออกเสียงประชามติแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้กล่าวเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียง ให้ออกมาร่วมแสดงพลังของการเป็นพลเมืองดี ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติโดยทั่วกัน จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ก็ขอให้ออกมาใช้สิทธิ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการออกเสียงประชามติครั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนไม่ก่อความวุ่นวาย หรือกระทำการใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อความผิดกฎหมายการออกเสียงประชามติ เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อจังหวัดลำปาง ให้ลำปางเป็นเมืองน่าอยู่และเป็นนครแห่งความสุขอย่างแท้จริง

ร่วมแสดงความคิดเห็น