ฝนถล่มภาคเหนือ-ดินสไลด์ปิดถนน ชาวบ้านสัญจรไม่ได้-บ้านเรือนเสียหายยับ…

หลายพื้นที่ภาคเหนืออ่วม ฝนถล่มหนัก น้ำป่าหลาก โดยที่ จ.เชียงใหม่ มีฝนตกหนักไหลท่วมเข้าบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่บ้านก้างหงส์ หมู่ที่ 6 ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หน่วยงานเกี่ยวข้องรุดเข้าสำรวจให้ความช่วยเหลือจนล่าสุดสถานการณ์กลับสู่ปกติ ขณะที่อีกจุดเกิดฝนตกหนักดินสไลด์ปิดถนนสัญจรชองชาวบ้าน ด้าน จ.แพร่ และ จ.น่าน ฝนตกหนักน้ำป่าหลากท่วมไร่สวนเกษตรกร และบ้านเรือนประชาชน เสียหายยับ ขณะที่กรมอุตุฯ ยังเตือนเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง ขอประชาชนติดตามสถานการณ์และรับมืออย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 6 ส.ค.59 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานว่า เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและเกิดอุทกภัยในพื้นที่บ้านก้างหงส์ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยพายุฝนดังกล่าวได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันนานหลายชั่วโมงและส่งผลให้มีปริมาณน้ำในลำน้ำแม่เลิม มีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่งล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชนที่มีบ้านเรือนของราษฎรที่อยู่ใกล้กับลำน้ำ โดยเฉพาะที่บริเวณในหมู่บ้านก้างหงส์ หมู่ที่ 6 โดยระดับน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและถนนภายในหมู่บ้านมีปริมาณน้ำสูงถึง 20 เซ็นติเมตร โดยทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบด้วย กำนันตำบลบ้านเป้า ผู้ใหญ่บ้าน บ้านก้างหงส์ ส.อบต.บ้านก้างหงส์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ช่วยกันออกสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระบลดังกล่าวเบื้องต้นจนกระทั่งในเวลาต่อมาพายุฝนได้หยุดตก และน้ำที่ไหลท่วมได้ระบายลงสู่แม่น้ำปิง จนกระทั่งระดับน้ำลดลงจนกลับสู่ภาวะปกติในช่วงค่ำ โดยจากการสำรวจตรวจสอบหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และมีเพียงบ้านเรือนของราษฎรบางรายที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเล็กน้อย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังพายุทีอาจเกิดขึ้นซ้ำและเหตุฉุกเฉินในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เวลาประมาณ 17.40 น. ของวันเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้มีการรายงานว่า จากการที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้เกิดเหตุดินสไลด์ส่งผลให้ถนนเส้นทาง หมู่ที่ 12 บ้านปางหก ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเหตุดังกล่าวส่งผลให้ดินสไลด์ลงมาปิดเส้นทางถนนยาวประมาณ 50 เมตร อีกทั้งทำให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมาถนนสายดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากรถยนต์และยานพาหนะไม่สามารถผ่านไปได้ โดยภายหลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการตรวจสอบและในเวลาต่อมาทางราษฎร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อปท. ที่อยู่ในพื้นที่ได้ร่วมกันทำการขนดินที่สไลด์ลงมาออกจากเส้นทางเพื่อเคลียร์พื้นที่จนกระทั่งเรียบร้อยและรถสามารถสัญจรได้จามปกติในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามในช่วงนี้พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังและเตือนประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งได้มีการจัดชุดคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่จุดเสียง จุดเฝ้าระวังคอยรับมือเหตุฉุกเฉินอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ที่จังหวัดแพร่ เมื่อเวลา 15.00 น. ทางด้าน นายอัศวิน ชนสยอง อยุ 50 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ 10 บ้านปงป้อม ตำบลห้วยม้า อำเภอเมือง จังหวัดแพร่และเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านปงป้อม ตำบลห้วยม้า อำเภอเมืองแพร่ พาผู้สื่อข่าวตรวจสอบความเสียหายจากฝนตกหนักเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยนายอัศวินนพาผู้สื่อข่าวไปดูบริเวณทุ่งนากว่า 50 ไร่ ซึ่งถูกน้ำท่วมขัง ทำให้ไร่นาที่ปลูกข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย
โดยผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงป้อม หมู่ 10 ตำบลห้วยม้า กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนกตกหนักในท้องที่ตำบลห้วยม้าตลอดทั้งคืน ทำให้ปริมาณน้ำฝน ผสมกับน้ำในอ่างแม่ถาง เขตอำเภอร้องกลางที่ปล่อยออกมาผสมกัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังไร่นาของชาวบ้านในเขตบ้านปง หมู่ 10 เท่าที่ชาวบ้านมาแจ้งและสำรวจประมาณกว่า 50 ไร่ นอกจากนั้นฝายกั้นน้ำ ห้วยหอย หมู่ 7 ตำบลห้วยม้า ขนาดกว้าง ประมาณ 10 เมตร ซึ่งฝายนี้สร้างมาหลายสิบปี ทำให้ฝายพังลง ทำให้เกิดผลกระทบกับชาวนาที่ต้องการใช้น้ำนี้อีก 70 ไร่พลอยได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันเมื่อค่ำวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ฝนตกตกหนักในป่าเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน บริเวณถนนสายป่าแดง-ท่าปลา ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ มีต้นไม้ล้มขวางถนน ก่อนถึงน้ำตกเขิงทอง ทางอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านต้องประกาศปิดน้ำตกเชิงทอง ในเช้าวันที่ 6 สิงหาคม 2559 เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตราย
และวันเดียวกันนี้ที่ จังหวัดน่าน เวลาประมาณ 07.00 น. พ.อ.อัศม์พงษ์ นิลพันธุ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 32 ได้ส่งกำลังทหารพรานเข้าร่วมกับทางเจ้าหน้าที่อบต.ขุนน่าน เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน บ้านด่าน หมู่ 3 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน  หลังเกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่บ้านบ้านด่าน หมู่ที่ 3 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ  จ.น่าน เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (5ส.ค.) จนมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 40 หลังคาเรือน  กว่า 100 คน  ขณะที่บ้านของ นายชื่นใจ ปิง เลขที่ 24 บ้านด่านเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูง  กระแสน้ำได้ซัดทำให้เสาบ้านหักบ้านทรุดลงทั้งหลัง 
นอกจากนี้ยังมีดินสไลด์หลายจุดบนถนนสาย อ.เฉลิมพระเกียรติ – อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

ขณะที่  นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผวจ.น่าน ได้สั่งทำการอพยพชาวบ้านที่มีบ้านอาศัยอยู่ริมน้ำ เส้นทางกระแสน้ำไหลผ่าน จำนวน 30 หลังคาเรือน จำนวนกว่า100 คนไปอาศัยยู่สถานที่ปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านด่าน  และสำนักสงฆ์บ้านด่าน ต.ขุนน่าน เป็นการชั่วคราวพร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือชาวบ้านทันทีหากมีน้ำป่าหลากและดินโคลนถล่ม  ด้านแขวงทางหลวงน่านที่2 ได้ให้เจ้าหน้าที่หมวดการทางอำเภอบ่อเกลือ ลงพื้นที่พร้อมเครื่องจักรเข้าดำเนินการเคลียร์ดินที่สไลด์ลงมาบนถนนสาย อ.เฉลิมพระเกียรติ– อ.บ่อเกลือ จ.น่าน  เพื่อให้สามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยระบุว่า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักรวมทั้งฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนตก  

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศไทยบริเวณตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนบน และอ่าวไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ยังคงมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ และน่าน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.