ชี้ห้ามต่างด้าวค้าขาย กาดนัด-ค้าเร่กระเจิง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากมาตรการที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกพื้นที่ กวดขันแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ,ลาวและกัมพูชา ค้าขาย ประกอบอาชีพนอกเหนือจากการยื่นขออนุญาติเข้ามาทำงานในไทย มีความผิดโทษจับ-ปรับหนัก ส่งผลให้ตลาดนัดชุมชน ปั่นป่วนพักใหญ่

ทั้งนี้ นางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 คนต่างด้าวจะทำงานในราชอาณาจักรไทยได้ ต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานจากนายทะเบียน มีใบอนุญาติทำงาน ที่ผ่านๆมาก็มีมาตรการกวดขัน การทำงานผิดประเภท ไม่ว่าจะค้าขาย อาชีพอิสระ ตามตลาดนัด หรือเร่ขายสินค้าตามชุมชน

แรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดประเภทหรือลักษณะงานหรือสถานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และนายจ้าง มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ถ้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ และนายจ้าง มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน

ด้านนางนวล เหม่ยโจง อดีตแม่ค้าชาวไทยใหญ่ที่เปิดแผงขายสินค้าเฉพาะกลุ่มไทยใหญ่ ย่าน อ.สันทราย เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวว่า ต้องหยุดขายของตามกาดนัด ที่เคยมีแผงค้าประจำ ซึ่งกลุ่มผู้ค้าด้วยกัน แม้จะมีครอบครัวกับคนไทย มีลูกเกิดที่นี่ก็ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง เนื่องจากเวลากวาดล้าง ถูกจับปรับไม่คุ้ม บรรยากาศเหมือนพม่าในอดีตเลย มากันเต็มตลาด

ส่วนหนึ่งก็พยายามไปขอใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมักจะมีงานก่อสร้าง เนื่องจากเครือข่ายผู้รับเหมาส่วนมากในเชียงใหม่ เป็นไทยใหญ่ทั้งนั้น บางส่วนที่ไม่คิดตั้งรกรากที่ไทยก็จะกลับบ้าน ซึ่งตนตั้งใจกลับไปอยู่เชียงตุงเปิดร้านอาหาร ย้ายครอบครัวไปหมด เพราะบรรยากาศที่ไทยเวลาตรวจค้น น่ากลัวกว่าเดิม มีหลายชุด

นายเกษม ปั้นสี ผู้รับเหมาโครงการย่าน ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ระบุว่า แรงงานต่างด้าวในภาคก่อสร้างหายากมาก และผู้รับเหมาส่วนมากไม่นิยมใช้แรงงานในพื้นที่เพราะแตกต่างจากแรงงานไทยใหญ่ พม่าที่ขยัน กลุ่มที่มีใบอนุญาต ถ้าสามีรับจ้างก่อสร้าง ภรรยาก็จะขายสินค้าเร่ในแคมป์ หรือตามกาดนัด พอมีมาตรการแบบนี้ ส่วนหนึ่งมองว่าไม่คุ้มที่จะอยู่ก็ถอย

ทุกวันนี้ไปเดินตามตลาดนัด กาดนัดชุมชนบรรดาแผงค้าที่เป็นชาวไทยใหญ่ แรงงานต่างด้าว หายหมด บรรยากาศเงียบเหงา ที่เดือดร้อนกันคือกลุ่มจัดตลาดนัด เนื่องจากผู้ค้ากลุ่มนี้ไม่มากเรื่อง ไม่มีเงื่อนไขรายเดือน รายปีในการจ่ายแผงเช่า รถเร่ขายของแบบรถกะบะมีสินค้าเยอะแยะหรือจักรยานยนต์พ่วงข้างขายของ ตามแคมป์คนงานก็หายไปหมด มีชุดตรวจสอบเข้ามาตรวจค้นสลับกันไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่ขยันทำงานกันดีช่วงนี้

ทางด้านนายเดช แสส่ง ชาวแม่สาย เชียงราย ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวเมียนมาร์ ย่านท่าขี้เหล็ก ระบุว่า เดิมที มีแผงค้าย่านสันทราย และอีกหลายจุดย่านหางดง นำสินค้าจากแม่สาย มาขายให้กลุ่มแรงงานตามย่านต่างๆ พอมีมาตรการแบบนี้ และพรรคพวกถูกจับปรับ ก็เล่าลือกันไป มากกว่าที่ควรจะเป็น ตามสังคมโชเชี่ยลทำให้ตัดสินใจ หยุดค้าตามแผงที่เชียงใหม่ คงกลับไปตั้งหลัก ทำการค้าที่บ้านแฟนทางท่าขี้เหล็กก่อนจะเพลาๆมาตรการนี้ลงเช่นที่ผ่านๆมา ทุกปีก็แบบนี้แต่ปีนี้หนัก นายเดช ย้ำในตอนท้าย