หนุ่มซิ่งกระบะฝ่าสายฝนกลางดึก รถเกิดเสียหลักเหวี่ยงชนอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทาง เจ้าหน้าที่ทั้งอาสาและกู้ภัยรุดเข้าช่วยเหลือ นำเครื่องตัดถ่างดึงร่างออกจากรถนานกว่าชั่วโมง นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันการเจ้าตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
อุบัติเหตุทางถนนครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา ประมาณ 02.46 น. วันที่ 13 ส.ค. 59 โดยทาง ร.ต.อ.ณฐมนัส ธนาคำ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า เหตุเกิดบริเวณบ้านสันคะยอม ถ.โชตนา ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงได้รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งประสานรถกู้ภัยให้เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือเนื่องจากทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ไปถึงพบกลุ่มชาวบ้านและผุ้เดินทางบนถนนสายดังกล่าวยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตื่นตกใจ
ขณะเดียวกัน พบรถยนต์รถกระบะอิซูสุ สีบรอนซ์ (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) ถูกอัดติดกับเสาไฟฟ้าริมทาง สภาพพังเสียหายทั้งคัน ทางเจ้าหน้าที่ได้รุดเข้าตรวจสอบพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ติดภายในรถ มีเลือดท่วมและบาดแผลหลายจุดตามร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามใช้อุปกรณ์ ตัด-ถ่าง เพื่องัดรถนำร่างผู้บาดเจ็บออกมา ซึ่งใช้เวลาร่วมชั่วโมง จนกระทั่งสุดท้ายนำตัวออกมาได้ในที่สุด ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แตในเวลาต่อมาทราบว่าผู้บาดเจ็บนั้นทนพิษบาดแผลไม่ไหว และได้เสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบและรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ทั้งนี้จากการสวบสวนพยานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงดึกที่ชาวบ้านได้นอนหลับหมดแล้ว แต่ได้ยินเสียงรถคันดังกล่าวพุ่งชนดังสนั่น ก่อนจะออกมาดูและพบว่ารถคันดังกล่าวชนเข้ากับเสาไฟฟ้า จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการตรวจสอบ ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุนั้นจากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ ในเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายได้ขับขี่รถเพื่อไปทำธุระ จากนั้นขากลับช่วงกลางดึกได้มีฝนตกลงมาโปรยปราย ประกอบกับผู้ตายได้ขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุทำให้รถเสียหลัก ก่อนที่จะเหวี่ยงไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงสูงดังกล่าว จนทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตามภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพผู้ตายส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ของแผนกนิติเวชโรงพยาบาลนครพิงค์ทำการชันสูตรอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด พร้อมทั้งจะได้แจ้งให้ทางญาติมารับศพผู้ตายเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น