กระทรวงพลังงาน-หนุนใช้เทคโนโลยี-ลดปัญหาหมอกควัน..

ตรวจเยี่ยม (1)
กระทรวงพลังงานเดินหน้าสนับสนุนโครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงานเพื่อลดปัญหาหมอกควันและลดโลกร้อนในพื้นที่อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการพลังงานชุมชนจัดการตนเองทั้งด้านพลังงานเพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับและให้การสนับสนุนโครงการด้านพลังงานที่ถูกต้องเหมาะสมและสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

วันที่ 20 ส.ค.59 พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เปิดเผยภายหลังเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่นั้นส่วนหนึ่งคือการเผาวัสดุเหลือทิ้งจากการปลูกข้าวโพดปลูกพืช ซึ่งมีการปลูกกันนับแสนไร่และมีการเผากองซังข้าวโพดบริเวณสองข้างทางกลายเป็นหมอกควันร่องรอยปกคลุมไปทุกเขตพื้นที่ในเมืองเชียงใหม่ กระทรวงพลังงานจึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และได้สนับสนุนให้เกิดโครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงานเพื่อลดปัญหาหมอกควันและลดโลกร้อนอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ภายใต้โครงการพลังงานชุมชนจัดการตนเองทางด้านพลังงานงบประมาณประจำปี 2558 กองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน โครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงานเพื่อลดปัญหาโรคปัญหาหมอกควันและโลกร้อน
ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่โดยนำซังข้าวโพดมาแปลงเป็นพลังงานชีวมวลและสามารถดำเนินการให้อย่างยั่งยืนอีกครั้งยังสามารถปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่เกิดการยอมรับสนับสนุนโครงการด้านพลังงานที่ถูกต้องเหมาะสมตลอดจนสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในชุมชนอีกด้วย โครงการนี้สามารถส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นรวมไปถึงสามารถผลิตถ่านใช้และจำหน่ายไม่น้อยกว่า 15 ตันต่อปี และสามารถช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกิดผู้ผลิตเทคโนโลยีพลังงานเช่นการผลิตเตาชีวมวลการลดปริมาณซังข้าวโพดที่ถูกเผาทิ้งในที่โล่งแจ้งนอกจากนี้ยังสามารถเป็นต้นแบบการดำเนินการและสร้างแรงจูงใจให้กับชุมชนในอำเภออื่นอื่นๆของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดข้างเคียงในการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อผลิตและใช้ชีวมวลจากซังข้าวโพดเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลให้การดำรงชีวิตประจำวันพุธแทนพลังงาน เดิมในการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายในระดับครอบครัวและชุมชนและส่งผลให้ปัญหาหมอกควันลดน้อยในที่สุดแต่ได้พลังงานเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทางคณะรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชน ที่เทศบาลปิงโค้ง ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่จัดทำการเผาตอซังข้าวโพดที่เหลือใช้นำมาทำการเผาเป็นถ่าน และทำการบดและผสมทำเป็นถ่านเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งสามารถนำมาจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ในอัตตราส่วนผสม ถ่าน 10 กิโลกรัม, แป้งมัน 1 กิโล กรัม,น้ำ7 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อนำมาตากแห้งหรืออบแห้งในห้องอบพลังงานแสงอาทิตย์ จะได้ 9 กิโลกรัม จำหน่ายได้ 180 บาท เศษซังข้าวโพด กิโลกรัมละ 25 บาท ส่วนน้ำนั้นได้ฟรีไม่ซื้อ ซึ่งรวมราคาทั้งหมด 35 บาท (ยังไม่คิดค่าแรง) ก็จะได้กำไร 145 บาท ต่อ 10 กิโลกรัม ทางคณะได้เข้าชมการสาธิตจริงเต็มรูปแบบ และทางพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดทำแจกให้กับทางฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 20 ชุด และให้ทางเทศบาลกลุ่มวิสาหกิจ 20 ชุด เพื่อนำไปทำการเผาซังข้าวโพดและเศษขยะแล้วทำถ่านใช้กัน เลิกทำการเผาเศษวัชพืชและขยะแก้ปัญหาหมอกควันได้ และทางโรงเรียนมิตรมวลชน ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำอีกรูปแบบซึ่งเป็นการสาธิตของเด็กนักเรียน นำถ่านซังข้าวโพดมาทำที่ดับกลิ่นในตู้เย็นออกจำหน่ายในชุมชน

ร่วมแสดงความคิดเห็น