นายอำเภอ-ทหาร ปราบรุกป่าสงวน กลืนพื้นที่อมก๋อย คนร้ายไหวตัวเผ่น

5 นายอำเภออมก๋อย สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารและส่วนเกี่ยวข้องออกปราบผู้กระทำผิดบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หลังตรวจพบมาใช้พื้นที่กว่า 10 ไร่ แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว พร้อมทำการล้อมรั้วกันพื้นที่ แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีไปได้ก่อน ยึดของกลางได้เพียงรถจักรยานยนต์ พร้อมเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค.59 นายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่จัดชุดปฏิบัติการร่วม ประกอบด้วยฝ่ายปกครอง / สภ.อมก๋อย / หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.30 (ปางโอ้งโม้ง) / ชม.37 (ยางเปา) /ชม.38 (อมก๋อย) ได้ร่วมกันเข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกบุกรุกและมีการล้อมรั้วไว้ เนื้อที่กว่า 10 ไร่ขึ้นไป โดยได้ทำการจับพิกัดในแต่ละแปลง พบผู้ต้องสงสัยในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ 2 ราย แต่ไหวตัวทันและทำการหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าทึ่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางคือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียนรถ 1 กท เชียงใหม่ 674 ที่เพิงพักใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะเป็นของผู้กระทำความผิด ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งได้ทำการบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุเพื่อรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบและติดตามเบาะแาสจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

5-1ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ได้มีผู้แสวงหาผลประโยชน์เข้ามาใช้พื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนในการทำธุรกิจของตนเอง ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ และได้มีการล้อมรั้วเพื่อแสดงว่าเป็นอานาเขตของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต ชาวบ้านจึงได้มีการร้องเรียนไปยังผู้เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับเรื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งมา ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำการเพาะปลูกและร้อมรั้วกันอานาเขตโดยนำรั้วหนามมาขึงและและใช้ท่อนไม้ทำเป็นเสากั้น ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็ยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันติดตามตัวผู้กระทำผิดแต่ระหว่างช่วงดังกล่าวคาดว่าผู้กระทำผิดน่าจะไหวตัวทันและได้รีบหลบหนี่ไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเพิงพักที่อยู่ในจุดเกิดเหตุก็พบยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้กระทำผิด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ในที่สุด

อย่างไรก็ตามภายหลังการตรวจสอบทางเจ้าหนาที่ได้นำของกลางที่ตรวจยึดได้จากที่เกิดเหตุ ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำไปตรวจสอบและติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าพื้นที่ดังกล่าวน่าจะมีกลุ่มนายทุนเข้ามาทำการบุกรุกเพื่อใช้พื้นที่ในการทำประโยชน์ส่วนตัว โดยทำการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งอาจมีการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการกระทำดังกล่าวอยู่ต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามติดตามจับกุมตัวและขยายผลดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องรักษาพื้นที่ป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น