สกู๊ปหน้า 1… ยันไม่ล้ม ไม่ยึด!! ระบบหลักประกันสุขภาพฯ

111 เมื่อเร็วๆ นี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมรับฟังและรับข้อเสนอความคิดเห็นจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการทั่วประเทศ เพื่อนำไปพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยยืนยันว่าระบบหลักประกันสุขภาพอยู่คู่ประชาชน “ไม่ล้ม ไม่ยึด”

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กทม. ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับฟังและรับข้อเสนอความคิดเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการระดับประเทศประจำปี 2559 จัดโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปรับปรุงมาตรฐานบริการสาธารณสุขรวมทั้งหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายให้กับสถานบริการ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 มาตรา 18(13)

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินการมาแล้วเป็นปีที่ 15 ซึ่งขณะนี้โลกและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป เราเหลียวหลังไปศึกษาอดีต อยู่กับปัจจุบัน มองไปอนาคต และทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนสุขภาพดี ระบบสุขภาพยั่งยืน เพราะระบบสุขภาพเป็นของประชาชน ไม่มีใครจะมาล้มหรือยึด สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)จะทำร่วมกัน คือ “ก้าวไกลไปด้วยกัน…ความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทย” ซึ่ง สปสช.ในฐานะผู้ซื้อคือผู้แทนประชาชน ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพประชาชน ส่วนกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้ให้บริการหลักของประเทศ ต้องสร้างสรรค์บริการสุขภาพที่ดีที่สุดให้ประชาชนเช่นกัน

222ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศอยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2560 ได้รับงบประมาณด้านสุขภาพมากขึ้น ซึ่งต้องมีการใช้จ่ายให้คุ้มค่า ด้วยกลยุทธ์ความเป็นเลิศ 4 ด้านคือ ป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพเป็นเลิศ การรักษาเมื่อเจ็บป่วยที่เป็นเลิศ บุคลากรต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นเลิศ และธรรมมาภิบาลในการบริหารจัดการ จะเกิดการดูแลสุขภาพที่มีคุณค่า ประหยัดค่าใช้จ่าย เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทำสิ่งดีๆ ต่อสุขภาพประชาชน เพราะประเทศจะมั่นคงได้ด้วยสุขภาพที่ดีของประชาชน

ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. มีการทำงานกันอย่างใกล้ชิด ปัญหาข้อติดขัดที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขร่วมกันอย่างรวดเร็ว เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ที่เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ยึดติดกับตัวตน และข้อเสนอที่ได้จากผู้ให้บริการและผู้รับบริการในวันนี้ จะถูกนำไปวิเคราะห์ นำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นำไปดำเนินการพัฒนาระบบทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น