สกู๊ปหน้า 1…เลียงผา-วัวแดงตาย โรคปากเท้าเปื่อยระบาด

(1)สกุ๊ป ทางนายอินถา หลวงใจ กำนันตำบลหนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากที่ตนได้เข้าร่วมปรชุมกับนายสัตวแพทย์ชาตรี คูหเทพารักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานสัตว์แพทย์ อนุรักษ์และวิจัย และทีมสัตวแพทย์ของสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลและให้อาหารสัตว์ที่ไนท์ซาฟารีเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา กรณีปัญหาเกิดโรคระบาดคือโรคปากเท้าเปื่อย ผลสรุปในที่ประชุมสรุปให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านได้ตามหน้าที่ เพราะเป็นห่วงว่าโรคจะระบาดและแพร่เชื้อออกจากพื้นที่ควบคุมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพราะไนท์ซาฟารีไม่สามารถควบคุมโรคได้ถึงแม้จะเป็นโรคที่ไม่ระบาดสู่คนก็ตาม

นายอินถา หลวงใจ กำนันตำบลหนองควาย กล่าวอีกว่า นายสัตวแพทย์ชาตรี แจ้งกับตนในที่ประชุมครั้งแรกกรณีปัญหาเริ่มเกิดโรคระบาดปากเท้าเปื่อย ที่เริ่มระบาดมาเมื่อ 1 สัปดาห์มาแล้วว่า ปัญหาเกิดโรคระบาดในพื้นที่ไนท์ซาฟารีแล้วนั้นทางไนท์ฯจะขอเวลาในดูแลรับผิดชอบในการป้องกันและรักษาโรคดังกลาวก่อนเพื่อไม่ให้กระทบกับหลายฝ่าย และไม่ต้องการให้ประชาชนแตกตื่นและตื่นตระหนก และเป็นห่วงผลกระทบกับการท่องเที่ยวด้วย

ทางไนท์ซาฟารีแจ้งอีกว่า จะมีการกักกันพื้นที่สัตว์ป่วย โดยแยกสัตว์ออกมารักษา และจะควบคุมรักษาโรคให้ได้จากที่พบว่าเลียงผาเสียชีวิตไปแล้ว 1 ตัวในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ก็ทราบอีกว่า มีวัวแดงได้เสียชีวิตเพิ่มอีกจำนวน 1 ตัว และเชื่อว่ามีสัตว์อื่นๆอีกที่เสียชีวิตจำนวนหนึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์เท้ากีบ เมื่อได้เข้าไปประชุมหารือกับทีมสัตว์แพทย์ของสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ดังกล่าว

สรุปคือทางไนท์ซาฟารีไม่สามารถควบคุมและรักษาโรคปากเท้าเปื่อยได้ ถึงจะบอกเหตุผลว่า มีการกำจัดสัตว์ที่ตายแล้วโดยการนำไปฝังกลบและฆ่าเชื้อโดยใส่ปูนขาวแล้วก็ตาม ตนก็ยังเป็นห่วงว่าเมื่อเกิดฝนตกหนักน้ำฝนกัดเซาะทำให้เชื้อโรคระบาดอีก ก็น่าเป็นห่วงเพราะพื้นที่ไนท์ซาฟารีเป็นป่าต้นน้ำของหมู่บ้านทั้ง อ.เมือง อ.หางดง จ.เชียงใหม่อีกด้วย

“ทีมสัตวแพทย์ไนท์ซาฟารียืนยันว่า ได้ควบคุมโรคปากเท้าเปื่อยได้ดีไม่เกิดโรคดังกล่าวติดต่อกันมานานถึง 10 ปี แต่ปีนี้เกิดระบาดอีกครั้ง ทางไนท์ซาฟารีจะพยายามป้องกันโรคก่อน แต่สุดท้ายเมื่อวาน(วันที่ 23 ส.ค.) เมื่อตนได้เข้าร่วมประชุมกรณีปัญหาดังกล่าวซึ่งตนทราบว่าทางไนท์ซาฟารีไม่สามารถควบคุมและรักษาโรคปากเท้าเปื่อยได้
จึงนำปัญหาดังกล่าวทั้งหมดรายงานให้นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ นายอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ทราบ และรายงานให้ปศุสัตว์อำเภอหางดงทราบแล้ว จากนั้นรายงานให้ทางประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านทราบต่อไปเพื่อประกาศให้ชาวบ้านทราบปัญหาและเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่อไป ล่าสุดทางปศุสัตว์อำเภอได้ลงพื้นที่ทำงานตรวจสอบพื้นที่ไนท์ซาฟารีแล้ว และเรื่องนี้ล่าสุดทุกหน่วยงานรายงานให้นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบแล้วเช่นกัน กำนันตำบลหนองควายกล่าว

มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเลียงผา ที่ตายไป 1 ตัวแรกนั้น จากที่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แจ้งว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้สมาชิกใหม่ เป็นลูกเลียงผา จำนวน 1 ตัว เพศผู้ ซึ่งเกิดจาก “พ่อตองหก” วัย 3 ปี และ “แม่ปาริชาติ” วัย 4 ปี 6 เดือน โดยลูกเลียงผามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และได้รับการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติจากแม่เลียงผาอยู่ในโซนซาวันน่า ซาฟารี และปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีเลียงผาทั้งหมด จำนวน 8 ตัว เป็นตัวผู้ 5 ตัว และตัวเมีย 3 ตัว

การที่เลียงผาได้เสียชีวิตไป 1 ตัว ซึ่งทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังไม่แจ้งว่าเป็นเพศอะไร ซึ่งเลียงผาฝุงดังกล่าวชาวบ้านและนักท่องเที่ยวก็เป็นห่วงว่าจะเกิดระบาดของเชื้อโรคปากเท้าเปื่อยเพิ่มไปหาเลี้ยงผาที่เกิดใหม่นี้หรือไม่

2)สกุ๊ป

ร่วมแสดงความคิดเห็น