นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร นักอุตุนิยมวิทยาชำนาญการ ส่วนพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจงการคาดการณ์สภาวะอากาศในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมต่อเนื่องเดือนกันยายน 2559 ว่า แบบทดสอบการรับมือน้ำฝนของ จ.เชียงใหม่ผ่านพ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.ย.59 ที่ผ่านมา แต่แบบทดสอบเช่นว่านี้จะมีเข้ามาเรื่อยๆ เนื่องจากฤดูฝนยังไม่หมด ฝนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เกิดขึ้นเนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่จะได้เห็นปัญหาซ้ำซากเกิดขึ้นในทุกๆ ปี หากมีกรณีฝนตกหนัก
“สถานการณ์ล่าสุดหลังวันที่ 24 ส.ค. ร่องฝนได้เลื่อนลงไปพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ส่งผลให้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีฝนน้อยลงกว่าช่วงต้นสัปดาห์ แต่เชียงใหม่ก็ยังคงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนเล็กน้อยในช่วงบ่ายถึงค่ำในทุกวัน แต่จะมีแบบทดสอบดังเช่นวันที่ 24 ส.ค.อีกในช่วงวันที่ 28-30 ส.ค.59 นี้ เนื่องจากร่องมรสุมที่เลื่อนลงไปพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง จะกลับขึ้นมาพาดผ่านทางด้านภาคเหนือตอนบนอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ จ.เชียงใหม่มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักแน่นอน คาดปริมาณฝนไม่ต่ำกว่า 50 มิลลิเมตร ก็ต้องติดตามกลุ่มฝนกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ ที่จะสวิงกลับขึ้นมาส่งผลกระทบกับ จ.เชียงใหม่โดยตรงอีกครั้งอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายวรพจน์ฯ กล่าว
นักอุตุนิยมวิทยาฯ กล่าวต่อว่า สำหรับพายุหมุนนั้นในช่วงเวลานี้ ยังไม่มีปรากฏที่จะส่งผลกระทบต่อภาคเหนือและจ.เชียงใหม่ ที่จะมีอิทธิพลโดยตรงกับภาคเหนือและเชียงใหม่ ปัจจัยแรกจะเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และอีกปัจจัยคือร่องมรสุมหรือร่องฝนที่จะขยับกลับขึ้นมา สองปัจจัยนี้จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยได้ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงซึ่งเคยประสบกับภาวะอุทกภัยซ้ำซาก
“สำหรับปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่ต้นปี 2559 ถึงปัจจุบัน ฝนสะสมน้อยที่สุดอยู่ที่ อ.เมืองตาก และที่เขื่อนภูมิพล มีฝนสะสมราว 480 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยมาก ส่วนฝนสะสมสูงสุดนั้นอยู่ที่ อ.เมืองเชียงราย และ อ.ท่าวังผา จ.น่าน มีปริมาณฝนสะสมอยู่ราว 1,350 มิลลิเมตร เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านที่จะรับร่องฝนและประกอบกับมีพายุเข้ามาส่งผลกระทบในช่วงที่ผ่านมาด้วย สำหรับปริมาณฝนของ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.59 เป็นต้นมา มีฝนสะสมอยู่ราว 700 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างที่ใกล้เคียงกับค่าปกติในรอบ 30 ปี ทั้งนี้ในภาพรวมของภาคเหนือพบว่ามีปริมาณฝนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.59 ถึงวันที่ 25 ส.ค.59 ที่ผ่านมามีฝนสะสมอยู่ราว 800 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าปกติในรอบ 30 ปี อยู่ราว 32 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าปกติแค่ร้อยละ 4 ซึ่งถือว่าน้อยมาก คาดว่าตลอดทั้งปี 2559 นี้ปริมาณฝนสะสมของภาคเหนือน่าจะมากกว่าค่าปกติได้” นายวรพจน์ฯ กล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น