กระทรวงเกษตรดัน 5 โครงการอุ้มเกษตรกร

b4 w=9h=5กระทรวงเกษตรฯ พร้อมเดินหน้าตามมติ ครม. ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการผลิต (เพิ่มเติม) จำนวน 5 โครงการ วงเงินรวม 15,597.340 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำเสนอ ครม. เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยมติ ครม. ให้ความเห็นชอบการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการผลิต (เพิ่มเติม) จำนวน 5 โครงการ วงเงินรวม 15,597.340 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อลดพื้นที่ปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม รวม 40 จังหวัด พื้นที่ 570,000 ไร่ (กิจกรรมเกษตรกรรมทางเลือก 420,000 ไร่ และอาชีพปศุสัตว์ /ทำนาหญ้า 150,000ไร่) และการปรับเปลี่ยนอาชีพที่สร้างรายได้ดีกว่าทำนา ได้แก่ ปศุสัตว์/ทำนาหญ้า และเกษตรกรรมทางเลือก เพื่อลดความเสี่ยงและมีรายได้เสริม ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมเดินหน้าดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร

พลเอก ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า โดยกรอบวงเงินดังกล่าว แบ่งเป็น 1) งบสินเชื่อ ธ.ก.ส. จำนวน 10,686 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรกู้ยืมเป็นเวลา 6 ปี เพื่อจัดหากระบือ โค แพะ และทำแปลงนาหญ้า 2) งบสนับสนุนการปรับเปลี่ยนพื้นที่ของเกษตรกรจากพื้นที่นาไม่เหมาะสมไม่เกิน 5 ไร่ต่อครัวเรือนไปทำเกษตรกรรมทางเลือกอื่น เช่น พืชไร่ ไม้ผล สัตว์ปีก และประมง วงเงิน 3,132.096 ล้านบาท 3) งบชดเชยดอกเบี้ย อัตรา 3% เกษตรกรจ่าย 2% ให้แก่เกษตรกรในการปรับเปลี่ยนเป็นอาชีพปศุสัตว์/ทำนาหญ้า จำนวน 30,000 ครัวเรือน พื้นที่ 150,000 ไร่ และ 4) งบบริหารโครงการของ กสก. และ ปศ. จากงบกลางภายในกรอบวงเงิน 278.950 ล้านบาท

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปีการผลิต 2559/60 ด้านการผลิต (เพิ่มเติม) ทั้ง 5 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาไม่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงกระบือ (ปศ.) มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 40 จังหวัด 25,000 ไร่ เกษตรกร 5,000 ครัวเรือน กระบือ 25,000 ตัว โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงกระบือรายละ 5 ตัว และปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวมาปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนรายละ 5 ไร่ 2) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาไม่เหมาะสมเพื่อส่องเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ (ปศ.) มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 40 จังหวัด 120,000 ไร่ เกษตรกร 24,000 ครัวเรือน แม่โคเนื้อ 120,000 ตัว โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อรายละ 5 แม่ และปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวมาปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนรายละ 5 ไร่ 3) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาไม่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงแพะ (ปศ.) มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 40 จังหวัด 2,500 ไร่ เกษตรกร 500 ครัวเรือน แพะ 16,000 ตัว โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงแพะ รายละ 32 ตัว (เพศเมีย 30 ตัว และเพศผู้ 2 ตัว) และปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมมาปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนรายละ 5 ไร่

พลเอก ฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการที่ 4) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาไม่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการทำนาหญ้า (ปศ.) มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 40 จังหวัด 2,500 ไร่ เกษตรกร 500 ครัวเรือน โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรลดพื้นที่ปลูกข้าว มาปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนและจำหน่ายในเชิงการค้ารายละ 5 ไร่ และ 5) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาไม่เหมาะสมเป็นเกษตรกรรมทางเลือกอื่น (กสก.)มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 30 จังหวัด 420,000 ไร่ เกษตรกร 84,000 ครัวเรือน โดยจะส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมเป็นเกษตรกรรมทางเลือกอื่น โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการปรับพื้นที่ ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงพื้นที่ สร้างระบบน้ำ และปัจจัยการผลิต และค่าใช้จ่ายในระหว่างการปรับเปลี่ยนพื้นที่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและมีอาหารบริโภคในครัวเรือน
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะสามารถลดพื้นที่นาข้าวไม่เหมาะสม 570,000 ไร่ ออกจากสาระบบแผนที่ Agri-Map ไปเป็นอาชีพอื่นที่มีรายได้ดีกว่า โดยเกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนทำปศุสัตว์/นาหญ้า จะมีรายได้เสริมจากการขายมูลสัตว์ 2,000 บาท/เดือน และขายหญ้าอาหารสัตว์ 2,000 บาท/เดือน และมีปริมาณปศุสัตว์ (กระบือ โค แพะ) เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้งเกษตรกรที่ทำกิจกรรมเกษตรทางเลือกแบบผสมผสาน จะมีอาหารเพียงพอในครัวเรือนและขายในชุมชนเป็นรายได้เสริมอีกด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น