คืบหน้า ชาวบ้านเชียงใหม่การ์เด้นแลนด์ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ คัดค้านการก่อสร้างเสาไฟฟ้าแรงสูงชั่วคราว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ กฟผ.เข้าร่วมการประชุมชี้แจง เพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แต่ทางชาวบ้านยื่นหลักฐานยืนยันทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการผิดจุด ที่ในหนังสือระบุพื้นที่ดำเนินการใน ต.สันทรายหลวง แต่มาดำเนินการที่ ต.สันทรายน้อย ชี้อาจมีเบื้องลึกแอบแฝง ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ กฟผ.กำลังดำเนินการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมระบุทาง กฟผ.ไม่ได้เป็นผู้ออกหนังสือ ต้องส่งให้ทางจังหวัดตรวจสอบก่อนดำเนินการต่อ
เมื่อวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเชียงใหม่การ์เด้นแลนด์ ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย นำโดย นางสมบูรณ์ ชวชาติ ได้เดินทางเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม อ.สันทราย เพื่อประชุมและรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมี นายประมาณ วงศ์วานรุ่งเรือง ผช.ผอ.โครงการก่อสร้างขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้า ทำการแทนผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ กฟผ. และ ปลัดอาวุโส อ.สันทราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ทางชาวบ้านได้คัดค้านการเข้าดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูง โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และจะทำการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า 115 กิโลโวลท์ เชียงใหม่ -2 แม่แตง จากสถานีไฟฟ้าย่อยเชียงใหม่ 2 ไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยแม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยกำหนดเดินสายไฟฟ้าไว้ด้านละ 12 เมตร จากแนวศูนย์กลางของเสาสายส่งไฟฟ้ารวม 2 ด้าน กว้าง 24 เมตร ระยะทางประมาณ 43 กิโลเมตร โดยจะก่อสร้างเสาไฟฟ้าชั่วคราว เพื่อรองรับการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าที่จะขยายเพิ่มเป็น 230 กิโลโวลต์ และจะดำเนินการสร้างเสาเหล็ก มาชิดรั้วของบ้านพักอาศัยเพื่อนำสายไฟฟ้าแรงสูง 115 กิโลโวลท์ มาพักไว้ตรงเสาเหล็กหน้าบ้านและติดตัวบ้านจนกว่าจะสร้างเสาไฟฟ้าแล้วเสร็จ ทำให้ชาวบ้านเกิดความกังวล เรื่องผลกระทบของไฟฟ้าแรงสูงที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตลอดจนความปลอดภัย
ทั้งนี้ทางด้าน นางสมบูรณ์ ชวชาติ หนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ระบุว่า “เนื่องจากวันที่ 1 ก.ย.59 ทาง กฟผ.จะส่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีราษฎรร้องเรียนงานก่อสร้างปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้า 115 กิโลโวลท์ เชียงใหม่ -2 แม่แตง ณ ที่ว่าการ อ.สันทราย ซึ่งทางตนพร้อมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบฯ อยู่ที่โครงการเชียงใหม่การ์เด้นแลนด์ ขอคัดค้านการชี้แจงจากทาง กฟผ.เนื่องจาก จากจดหมายของทาง กฟผ. วันที่ 19 เม.ย.59 ให้ ด.ต.เอนก บูรณะ เจ้าของโครงการเชียงใหม่การ์เด้นแลนด์ เรื่องแจ้งเข้าดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าและก่อสร้างเสาไฟฟ้าชั่วคราว
อ้างถึงประกาศการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เรื่องการปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้า 115 กิโลโวลท์ เชียงใหม่ -2 แม่แตง ตามเอกสารที่ได้ส่งมา มีข้อความว่า “รายละเอียดตามผังระบุตำแหน่งที่ตั้งเสาไฟฟ้าชั่วคราวตามสิ่งที่ส่งมาด้วยในที่ดินของท่าน ระหว่าง 4846IV0280-10 แปลงสำรวจเลขที่ A076 ในท้องที่หมู่ที่ 5 ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่” แต่ความจริงแล้วโครงการเชียงใหม่การ์เด้นแลนด์อยู่ที่ ต.สันทรายน้อย ไม่ใช่ ต.สันทรายหลวง และแปลงสำรวจเลขที่ก็ไม่ตรงกับโฉนดที่เป็นของ ด.ต.เอนก บูรณะ (ตามเอกสารส่งมา) และเป็นไปไม่ได้ที่ทาง กฟผ. จะเขียนผิด ดังนั้นเมื่อทาง กฟผ.จะเข้ามาดำเนินการที่ หมู่ 5 ต.สันทรายหลวง พวกเราอยู่ ต.สันทรายน้อย เท่ากับว่า กฟผ. ได้บุกรุกให้พวกเราเดือดร้อน และถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง”
ขณะที่ทางด้าน นายประมาณ วงศ์วานรุ่งเรือง ผช.ผอ.โครงการก่อสร้างขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้า ทำการแทนผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ เป็นเพียงคำสั่งที่ตนได้รับมอบหมายให้นำข้อมูลของโครงการไปชี้แจงให้กับทางชาวบ้านได้รับทราบเพียงเท่านั้นขณะเดียวกันในส่วนของเอกสารที่มีการระบุสถานที่หรือตำแหน่งของโครงการผิดนั้น ทางตนยังไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว แต่เห็นแล้วว่าที่ทางชาวบ้านได้แนบมากับข้อคัดค้านนั้นเป็นพื้นที่โฉนดโดยรวม ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงให้คำตอบอะไรไม่ได้
ขณะเดียวกันเอกสารที่ทางตนยื่นแสดงกับทางชาวบ้านเป็นเพียงจดหมาย ไม่ได้เป็นเอกสารที่ส่งมาทั้งหมดว่าถูกหรือผิด แต่จากการตรวจสอบพบว่าที่ชาวบ้านนำมาให้ดูนั้น น่าจะเป็นโฉนดแปลงรวมไม่ใช่แปลงแยกหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามจะต้องมีการส่งเรื่องไปยังผู้รับผิดชอบในการทำเอกสารดังกล่าวว่าถูกหรือผิด เนื่องจากทาง กฟผ. ก็ส่งหนังสือตามที่ได้รับมอบมาจากทางจังหวัด ซึ่งกรณีเช่นนี้ อาจเกิดจากเอกสารเก่ากับเอกสารใหม่ หรือ แบ่งแปลงหรือไม่แบ่งแปลง ซึ่งทางตนก็ไม่ทราบกระบวนการออกหนังสือดังกล่าวเช่นกัน แต่การตรวจสอบก็ต้องไปยังจังหวัดเพื่อให้เกิดความแน่ชัด
นายประมาณ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของเรื่องความปลอดภัยนั้น ไฟฟ้าได้ออกแบบตามกติกาที่เรียกว่า international ซึ่งการออกแบบสายส่งนั้นก็จะเป็นไปตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้ และเป็นมาตรฐานที่ได้มีการรับรองแล้ว ซึ่งยืนยันได้ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่หากทางชาวบ้านยังไม่เชื่อ ทางเราก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งเป็นเหมือนกติกาที่ได้มีการกำหนดไว้แล้วที่จะต้องทำตาม แต่อย่างไรก็ตามทางตนยืนยันว่าการดำเนินการก็จะต้องทำอยู่ต่อไป ซึ่งทางตนนั้นก็มีการทำตามขั้นตอน ไม่ใช่มีการร้องเรียนแล้วจะต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งหนังสือนั้นทางตนก็จะทำการตรวจเช็คว่าครบทุกขั้นตอนหรือไม่ หากครบขั้นตอนเมื่อเข้าไปดำเนินการแต่ทางชาวบ้านไม่ยอมให้เข้า ทางตนก็ต้องไปประสานกับทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเข้าดำเนินการและเป็นพยาน ซึ่งก็จะมีการเรียกดูเอกสารตาม พ.ร.บ.การไฟฟ้า ซึ่งจะต้องแยกประเด็นกันด้วย ระหว่างร้องเรียนกับเข้าทำงานไม่เหมือนกัน พ.ร.บ.การไฟฟ้าอนุญาตให้ร้องเรียน แต่หากการไฟฟ้ามีความจำเป็นที่จะเข้าดำเนินการก็ต้องใช้อำนาจของทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องก็ไปว่ากัน เนื่องจากขบวนการศาลกับขบวนการก่อสร้างไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่ กฟผ.ได้ยืนยันที่จะดำเนินการต่อในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงการดำเนินการว่ามีความปลอดภัยต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน แต่ทางชาวบ้านก็ยังคงทำการคัดค้าน และอยากให้มีการดำเนินการตรวจสอบให้ระเอียดถึงหลักฐาน ที่ได้มีการยืนยันมาแสดงกับทางชาวบ้านก่อนหน้านี้ และภายหลังการประชุม ทาง นางสมบูรณ์ ชวชาติ ยังระบุอีกว่า จะได้นำเรื่องและหลักฐานในการประชุมครั้งนี้นำเสนอไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง และยืนยันว่าหากทาง กฟผ.จะดำเนินการต่อ ก็ต้องทำให้เกิดความพอใจและเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ร่วมแสดงความคิดเห็น